ไซตามะ ~เรียนรู้จากช่างฝีมือชั้นแนวหน้า~ สัมผัสงานฝีมือเก่าแก่ที่ใกล้ชิดกับวิถีชีวิตของคนญี่ปุ่น

features

ไซตามะ ~เรียนรู้จากช่างฝีมือชั้นแนวหน้า~ สัมผัสงานฝีมือเก่าแก่ที่ใกล้ชิดกับวิถีชีวิตของคนญี่ปุ่น
พื้นที่ส่วนตะวันออก พื้นที่ส่วนตะวันตก ศิลปะและหัตถกรรม ความสนใจทางประวัติศาสตร์ ธรรมชาติ

เมือง Kasukabe เป็นเวทีของมังงะญี่ปุ่นเรื่อง "เครยอนชินจัง" อันโด่งดัง เนื่องจากมีตำแหน่งที่สำคัญต่อการเดินทาง จึงได้รุ่งเรืองขึ้นในฐานะเมืองที่พักมาแต่โบราณ ทั้งยังอุดมไปด้วยธรรมชาติ ส่งผลให้มีพัฒนาการด้านงานฝีมืออย่างหลากหลาย เช่น ลิ้นชัก Kiri Tansu และไม้ตีแบดญี่ปุ่น Oshie Hagoita ไม่ไกลจากเมืองนี้ก็เป็นที่ตั้งของเมือง Yoshimi ที่โด่งดังจากจากสุสานโบราณ Yoshimi Hyakuana และเสื่อทาทามิที่เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมญี่ปุ่นอย่างลึกซึ้ง ในครั้งนี้เราจะมาแนะนำงานฝีมือดั้งเดิมที่สามารถสัมผัสได้จริงๆ ในละแวก Kasukabe และ Yoshimi พร้อมนำเสนอสถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาดของบริเวณนี้

เมือง Kasukabe เมืองที่พักเก่าแก่ซึ่งสืบทอดงานฝีมือดั้งเดิมมากว่า 300 ปี

เมือง Kasukabe ตั้งอยู่ในจังหวัดไซตามะ ได้รุ่งเรืองขึ้นในฐานะ Kasukabe Juku เมืองท่าในสมัยก่อนที่เป็นทางผ่านไปยังละแวก Nikko ในช่วงแรกของยุคเอโดะ (ปี 1603 – 1868) ช่างฝีมือมากมายได้ย้ายมาอาศัยที่บริเวณนี้เพื่อก่อสร้างศาลเจ้า Nikko Toshogu ช่างฝีมือดังกล่าวได้นำไม้ Kiri คุณภาพดีของบริเวณนี้มาสร้างเป็นเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน และสืบทอดทักษะนี้ให้กับคนรุ่นหลัง เราจะพาคุณไปรู้จักกับงานฝีมือดั้งเดิมของละแวก Kasukabe ผ่านเวิร์คช็อปที่สัมผัสประสบการณ์แฮนด์เมดได้จริงๆ เป็นโอกาสห้ามพลาดที่จะได้สร้างผลงานสุดออริจินัลภายใต้คำแนะนำของช่างฝีมือผู้เชี่ยวชาญ !

Oshie Hagoita งานศิลปะแฮนด์เมดที่สร้างขึ้นชิ้นต่อชิ้น

Hagoita เป็นไม้สำหรับเกมตีลูกขนไก่ที่มีอยู่ตั้งแต่ยุคมุโรมาจิ (ปี 1392 – 1573) ทั้งยังเป็นสัญลักษณ์ของการขับไล่สิ่งชั่วร้าย จึงถูกใช้เป็นเครื่องรางนำโชคอย่างแพร่หลาย แม้แต่ในปัจจุบันนี้ก็ยังมีประเพณีมอบ Hagoita เป็นของขวัญวันเกิดให้กับเด็กหญิง โดยเชื่อว่าจะช่วยขับไล่สิ่งชั่วร้ายได้

อีกด้านหนึ่ง Oshie เป็นสิ่งที่คิดค้นขึ้นโดยชนชั้นสูงในยุคเอโดะ เดิมทีเป็นศิลปะทรงนูนที่ทำโดยห่อกระดาษแผ่นหนาๆ ด้วยผ้า และอัดสำลีเข้าไปให้เกิดเป็นรูปทรงที่มีมิติ มีการสร้างกันในหลากหลายรูปทรง เช่น พระอาทิตย์ขึ้น เจ็ดเทพนำโชค และนักแสดงละครคาบุกิ เมื่อนำ Hagoita และ Oshie มาผสมผสานเข้าด้วยกัน ก็จะเกิดเป็นสิ่งที่เรียกว่า Oshie Hagoita

ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ช่างฝีมือ Oshie ในโตเกียวและอาซากุสะที่รอดพ้นจากไฟสงครามได้ย้ายมาอาศัยใน Kasukabe เพื่อแสวงหาวัสดุสำหรับทำ Hagoita และได้พบกับไม้ Kiri คุณภาพดี Oshie Hagoita จึงได้ถือกำเนิดขึ้น

Oshie Hagoita ของ Kasukabe เป็นผลงานแฮนด์เมดจากการร่วมมือกันของช่าง Oshie และช่าง Menso (เทคนิคการวาดรูปหน้า) โดยใช้วัสดุราว 50 – 70 ชนิด ผ่านขั้นตอนกว่า 200 รายการ มีคุณค่าทางศิลปะสูงมาก เช่น รอยนูนบนสีหน้าที่ดูมีชีวิตชีวา ถึงขนาดได้รับระบุให้เป็นหนึ่งในผลงานศิลปะดั้งเดิมประจำจังหวัดไซตามะเมื่อปี 1977

สำหรับผู้ที่ต้องการชมขั้นตอนการทำ Oshie Hagoita ก็ขอแนะนำให้เข้าร่วมคอร์สทัศนศึกษาเวิร์คช็อปของ Mizuno Seisakusho นอกจากจะได้ชมทักษะของผู้เชี่ยวชาญแล้ว ยังสามารถสัมผัสประสบการณ์ทำกล่อง Oshie โดยกดใบหน้าตัวละครคาบุกิชื่อดังลงในกล่องไม้ Kiri เป็นของที่ระลึกที่ไม่เหมือนใครอย่างแน่นอน

ชื่อ: Mizuno Seisakusho (Edokatsu)
ที่ตั้ง: 1727, Fujitsuka, Kasukabe-shi, Saitama
การเดินทาง: เดินประมาณ 10 นาทีจากสถานี Fujino Ushijima ของรถไฟ Tobu Urban Park Line
เว็บไซต์: http://www.hagoita.jp/

Kiri Tansu ลิ้นชักไม้แห่ง Kasukabe ที่มีประวัติศาสตร์กว่า 350 ปี

ดังที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น เหล่าช่างฝีมือที่เกี่ยวข้องกับการสร้างศาลเจ้า Nikko Toshogu ได้ย้ายมาอาศัยที่ Kasukabe เมื่อราว 350 ปีก่อน และทำการสร้างเครื่องใช้ในชีวิตประจำขึ้นโดยใช้ประโยชน์จากไม้ Kiri ที่อยู่ภายในบริเวณนี้

Kasukabe อุดมไปด้วยไม้ Kiri มากมาย ไม้ชนิดนี้เบากว่าไม้อื่นๆ ทั้งยังมีลายไม้ที่สวย โดดเด่นด้านการป้องกันแมลง ความชื้น และการขึ้นรา รวมถึงติดไฟได้ยาก จึงเหมาะมากสำหรับใช้ทำเป็นลิ้นชักเก็บเสื้อผ้าและกล่องสำหรับเก็บของมีค่าชิ้นเล็กๆ

จุดเด่นของลิ้นชัก Kiri Tansu ของ Kasukabe คือดีไซน์ที่เรียบง่าย ทำขึ้นโดยไม่ใช้โลหะ และโดดเด่นด้วยทักษะช่างฝีมือที่หลงเหลือบรรยากาศอันอบอุ่นของเนื้อไม้ไว้

Iijima Kiri Tansu Seisakusho เป็นเวิร์คช็อปโมเดลด้านงานศิลปะดั้งเดิมที่รับรองโดยจังหวัดไซตามะ สามารถเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์และขั้นตอนการผลิตของลิ้นชัก Kiri Tansu ตั้งแต่การตัดไม้ ตากไม้ให้แห้ง แบ่งไม้ออกเป็นแผ่น ไปจนถึงการเก็บรักษา สกัด และประกอบไม้ นอกจากนี้ คุณยังสามารถสัมผัสประสมการณ์ทำ Kiri Tansu ไซส์มินิในขั้นตอนที่หลากหลาย เช่น การวัดและการแต่งสี โดยสามารถนำผลงานที่เสร็จแล้วกลับไปใช้งานที่บ้านได้ด้วย

ชื่อ: Iijima Kiri Tansu Seisakusho
ที่ตั้ง: 1-1-9, Toyono-cho, Kasukabe-shi, Saitama
การเดินทาง: นั่งรถบัสประมาณ 15 นาทีจากสถานี Kasukabe ของรถไฟ Tobu Urban Park Line
เว็บไซต์: http://www.iijimakiritansu.com/

สถานที่แนะนำของเมือง Kasukabe เหมาะมากสำหรับแวะพักผ่อนหลังกิจกรรมสัมผัสประสบการณ์

นอกจากงานฝีมือท้องถิ่นและทักษะของช่างฝีมือญี่ปุ่นแล้ว หากได้มา Kasukabe ก็ไม่ควรพลาดจุดท่องเที่ยวที่เป็นเอกลักษณ์ของบริเวณนี้ ยกตัวอย่างเช่น 3 สถานที่ดังต่อไปนี้

Ushijima no Fuji ต้นฟูจิอันยอดเยี่ยมที่เปิดให้เข้าชมเพียง 3 สัปดาห์

Ushijima no Fuji ตั้งอยู่ภายในสวน Tokaen เป็นต้นฟูจิขนาดใหญ่อันดับต้นๆ ของญี่ปุ่น มีอายุกว่า 1,200 ปี แผ่รากไปราว 10 ตารางเมตร และขยายกิ่งก้านไปกว่า 700 ตารางเมตร ในช่วงที่บานเต็มที่จะมีช่อดอกสีม่วงย้อยลงมา โดยสามารถยาวได้ถึง 2 เมตรเลยทีเดียว ทั้งยังถูกระบุให้เป็นอุทยานธรรมชาติของญี่ปุ่นอีกด้วย

Ushijima no Fuji มีช่วงรับชมประมาณกลางเมษายนถึงต้นพฤษภาคม เป็นช่วงที่ภายในสวนจะถูกแต่งแต้มไปด้วยดอกฟูจิน้อยใหญ่หลากสายพันธุ์ ดอกโชบุและสึสึจิที่บานอยู่รอบบ่อน้ำ และต้นเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 500 ปี หากแวะมา Kasukabe ในฤดูใบไม้ผลิ ก็ไม่ควรพลาดสวนฟูจิแห่งนี้ที่เปิดให้เข้าชมเพียง 3 สัปดาห์เท่านั้น

ชื่อ: Tokaen
ที่ตั้ง: 786, Ushijima, Kasukabe-shi, Saitama
การเดินทาง: เดิน 10 นาทีจากสถานี Fuji no Ushijima ของรถไฟ Tobu Urban Park Line
เว็บไซต์: http://www.ushijimanofuji.co.jp/

Pratto Kasukabe ออกสำรวจบ้านเกิดของเครยอนชินจัง

“”เครยอนชินจัง”” เป็นมังงะที่เขียนโดยอาจารย์ Usui Yoshito ได้รับการดัดแปลงเป็นอนิเมะและภาพยนตร์มากมาย มีชื่อเสียงกว้างขวางทั้งในญี่ปุ่นและต่างประเทศ เมือง Kasukabe ของจังหวัดไซตามะเป็นที่อยู่อาศัยของครอบครัวชินจัง หากต้องการเที่่ยวชมสถานที่ที่ปรากฏอยู่ในมังงะ ก็ขอแนะนำให้เดินทางไปที่ Pratto Kasukabe ศูนย์ให้ข้อมูลการท่องเที่ยวที่อยู่ห่างจากสถานี Kasukabe โดยเดินเพียง 3 นาที

ทันทีที่เดินเข้าไปคุณก็จะพบกับผนังที่ประดับด้วยโปสเตอร์ภาพยนตร์เครยอนชินจังในยุคต่างๆ รวมถึงต้นฉบับมังงะและสตอรี่บอร์ดที่เขียนโดยอาจารย์ Usui Yoshito เป็นคอลเลคชั่นล้ำค่าที่แฟนชินจังไม่ควรพลาด อาคารนี้มีจักรยานเสริมแรงไฟฟ้าให้เช่า ประกอบกับมีบอร์ดที่เปรียบเทียบสถานที่ในมังงะกับสถานที่จริงให้ดู จึงเหมาะมากสำหรับการวางแผนปั่นจักรยานเที่ยวชมสถานที่ต่างๆ ที่ปรากฏอยู่ในมังงะ

ชื่อ: Pratto Kasukabe
ที่ตั้ง: 1-3-4, Kasukabe, Kasukabe-shi, Saitama
การเดินทาง: เดิน 3 นาทีจากสถานี Kasukabe ของรถไฟ Tobu Urban Park Line
เว็บไซต์: http://www.visit-kasukabe.jp/sp_pratkasukabe.html

Shutoken Gaikaku Hosuiro ทางระบายน้ำที่ดูราวกับวิหารใต้ดิน

เมือง Kasukabe ตั้งอยู่ในที่ราบลุ่มของแม่น้ำ Nakagawa และ Ayasegawa เป็นบริเวณที่ล้อมรอบไปด้วยแม่น้ำใหญ่อย่าง Tonegawa, Edogawa, และ Arakawa ส่งผลให้ได้รับภัยพิบัติทางน้ำง่ายมาแต่โบราณ เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมจากฝนตกหนัก ทางระบายน้ำใต้ดินขนาดมหึมาที่มีชื่อว่า Shutoken Gaikaku Hosuiro จึงถูกสร้างขึ้น โดยใช้เวลาสร้างถึง 13 ปี และเสร็จสมบูรณ์เมื่อปี 2006

ทางระบายน้ำยาว 6.3 กิโลเมตรนี้มีหลุมกักเก็บน้ำตั้งอยู่ 5 จุด ติดกับหลุมหมายเลข 1 มี Choatsu Suiso แทงค์น้ำปรับแรงดันที่ช่วยลดความแรงของกระแสน้ำก่อนปล่อยออกไปสู่แม่น้ำ Edogawa โครงสร้างนี้มีเสาขนาดใหญ่ตั้งอยู่อย่างนับไม่ถ้วน ส่งผลให้มีชื่อเล่นว่า Chika Shinden (วิหารใต้ดิน) และถูกใช้เป็นโลเคชั่นถ่ายทำละครอยู่บ่อยครั้ง บริเวณนี้มีทัวร์ทัศนศึกษาให้เข้าร่วม โดยมีให้เลือก 4 คอร์ส หนึ่งในนั้นเป็นคอร์สที่สามารถเข้าไปภายในวิหารใต้ดินได้ด้วย เป็นทิวทัศน์สุดอลังการที่ห้ามพลาดอย่างยิ่ง โดยเรียงรายไปด้วยเสา 59 ต้นที่สูงกว่า 18 เมตร

ชื่อ: พิพิธภัณฑ์สำรวจใต้ดิน Ryu Q Kan
ที่ตั้ง: 720, Kamikanasaki, Kasukabe-shi, Saitama
การเดินทาง: จากทางออกทิศเหนือของสถานี Minami Sakurai ของรถไฟ Tobu Urban Park Line เดินประมาณ 25 – 30 นาที หรือนั่งรถ Haru Bus แล้วลงที่ป้าย Ryu Q Kan
เว็บไซต์: https://gaikaku.jp/

ออกเดินทางสู่ Yoshimi เมืองที่ครบครันทั้งธรรมชาติและประวัติศาสตร์

Yoshimi อยู่ห่างจาก Kasukabe โดยนั่งรถยนต์ประมาณ 30 นาที เป็นพื้นที่เพาะปลูกข้าวอันอุดมสมบรณ์ที่ราบเรียบและมีแม่น้ำ Ichinokawa ไหลผ่านทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ สามารถเพลิดเพลินไปกับวิวชนบทแบบญี่ปุ่น ทั้งยังมีสถานที่ชื่อดังอยู่มากมาย เช่น สุสานโบราณ Yoshimi Hyakuana ในส่วนต่อไปนี้เราจะมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวและอีเวนต์สัมผัสประสบการณ์ที่สามารถพบได้ที่เมือง Yoshimi แห่งนี้

เรียนรู้เกี่ยวกับเสื่อทาทามิ สิ่งที่ขาดไม่ได้ในชีวิตประจำวันของคนญี่ปุ่น

เสื่อทาทามิเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับชีวิตประจำวันในญี่ปุ่นที่ล้อมรอบไปด้วยทะเล ความชื้นสูง ร้อนมากในฤดูร้อน และหนาวมากในฤดูหนาว ร้าน Miyazaki Tatami ในเมือง Yoshimi ได้ให้ความสำคัญกับทัวร์ชมเวิร์คช็อปและบริการสัมผัสประสบการณ์ เพื่อบอกต่อความดีงามของประเพณีญี่ปุ่นให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก

เวิร์คช็อปของร้านอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมที่มีเอกลักษณ์ของหญ้า Igusa เป็นบริเวณที่คุณ Miyazaki ผู้เป็นเจ้าของร้านจะค่อยๆ บรรจงซ่อมแซมเสื่อทาทามิที่ได้รับจ้างวานมา เริ่มด้วยการตัดผ้าเย็บปิดขอบอย่างประณีต นำทาทามิเก่าออกมาด้านนอก ปูทาทามิใหม่ลงไป และใช้เครื่องจักรเย็บผ้าปิดขอบเข้าไปใหม่

คุณอาจเคยนอนลงบนเสื่อทาทามิ แต่ก็มีน้อยคนมากที่จะเคยขนย้ายเสื่อทาทามิด้วยตัวเอง รับรองว่าคุณจะตกใจอย่างแน่นอนเมื่อได้ลองยกเสื่อทาทามิที่เวิร์คช็อปแห่งนี้ เสื่อทาทามิ 1 ผืนมีน้ำหนักถึง 30 กิโลกรัม ภายในมีฟางอัดแน่นอยู่อย่างเต็มที่ เป็นหนึ่งในข้อมูลสุดพิเศษที่จะได้รู้ก็ต่อเมื่อได้มาทัศนศึกษาเวิร์คช็อปด้วยตัวเอง คุณ Miyazaki ได้บอกกับเราพร้อมเสียงหัวเราะว่า “”เพียงเปลี่ยนหญ้า Igusa เป็นครั้งคราว เสื่อทาทามิ 1 ผืนก็จะสามารถใช้ได้หลายสิบปี เป็นความยั่งยืนที่หาคู่แข่งไม่ได้เลยจริงๆ””

หลังจากชมเวิร์คช็อปซ่อมแซมเสื่อทาทามิแล้ว คุณก็จะได้ลองทำเสื่อทาทามิขนาดมินิด้วยตัวเอง การตัดแต่งขอบที่ดูเหมือนง่ายนั้น หากได้ลองแล้วก็จะพบว่าจำเป็นต้องอาศัยเคล็ดลับอยู่เล็กน้อย เมื่อทำเสร็จแล้วก็สามารถนำกลับบ้านได้ เหมาะมากสำหรับใช้วางตุ๊กตาและฟิกเกอร์

ชื่อ: Miyazaki Tatami
ที่ตั้ง: 386, Jitoho, Yoshimi-machi, Hiki-gun, Saitama
การเดินทาง: นั่งแท็กซี่ประมาณ 20 นาทีจากสถานี Kumagaya, Fukiage, หรือ Konosu ของรถไฟ JR หรือจากสถานี Higashi Matsuyama ของรถไฟ Tobu Tojo
เว็บไซต์: https://miyazakitatami.jimdofree.com/

สถานที่ห้ามพลาดของเมือง Yoshimi จุดชมซากุระชื่อดังที่มีบรรยากาศยุคโบราณ

Iwamuro Kannondo ถ้ำที่มีเทวรูปโพธิสัตว์ Kannon ประดิษฐานอยู่ภายใน

Iwamuro Kannondo เป็นที่เกิดจากการขุดหินผาให้เป็นรู ภายในประดิษฐานไว้ด้วยเทวรูปโพธิสัตว์ Kannon 88 รูป กล่าวกันว่าก่อตั้งขึ้นในช่วงปี Konin (ปี 810 – 824) เคยเสียหายไปครั้งหนึ่งเพราะไฟสงคราม แต่ก็ถูกสร้างขึ้นใหม่ในยุคเอโดะและหลงเหลือมาสู่ยุคปัจจุบัน ด้านหลังสิ่งก่อสร้างนี้มีโพรงหินทรงหัวใจ เชื่อกันว่าหากได้ลอดผ่านก็จะช่วยให้คลอดลูกได้ปลอดภัยขึ้น

ชื่อ: Iwamuro Kannondo
ที่ตั้ง: 309, Kitayoshimi, Yoshimi-machi, Hiki-gun, Saitama
การเดินทาง: จากสถานี Higashi Matsuyama ของรถไฟ Tobu Tojo นั่งรถบัสท่องเที่ยว Kawagoe สายมุ่งหน้าไปสถานี Konosu ลงที่ป้าย Hyakuana Iriguchi แล้วเดินต่อ 5 นาที
เว็บไซต์: https://www.town.yoshimi.saitama.jp/soshiki/shogaigakushuk/7/427.html

Yoshimi Hyakuana สุสานโบราณที่แผ่กว้างไปทั่วเนินเขา
Yoshimi Hyakuana ได้รับการระบุให้เป็นร่องรอยทางประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น เป็นกลุ่มสุสานทรงอุโมงค์ที่สร้างขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 6 ถึงครึ่งหลังศตวรรษที่ 7 สุสานทรงอุโมงค์หมายถึงสุสานที่สร้างโดยขุดรูลงบนทางราบของเนินเขาหรือที่ราบสูง ประกอบไปด้วย Genjitsu ที่เป็นห้องสำหรับใส่โรงศพ และ Endo ที่เป็นทางเดินเชื่อม Genjitsu เข้ากับภายนอก ปัจจุบันมีสุสานที่ค้นพบแล้วถึง 219 แห่ง บริเวณรอบข้าง Yoshimi Hyakuan มีซากุระสายพันธุ์โซเมโยชิโนะที่จะเบ่งบานในช่วงมีนาคมถึงเมษายน นอกจากเทศกาลชมซากุระแล้ว บริเวณริมแม่น้ำ Ichinokawa ที่อยู่ใกล้กันก็จะมีการจัดไฟไลท์อัพในช่วงกลางคืน แผ่กว้างไปด้วยทิวทัศน์ที่ยอดเยี่ยมอย่างยิ่ง

ชื่อ: Yoshimi Hyakuana
ที่ตั้ง: 324, Kitayoshimi, Yoshimi-machi, Hiki-gun, Saitama
การเดินทาง: จากสถานี Higashi Matsuyama ของรถไฟ Tobu Tojo นั่งรถบัสท่องเที่ยว Kawagoe สายมุ่งหน้าไป Mengyo Center ลงที่ป้าย Hyakuana Iriguchi แล้วเดินต่อ 5 นาที หรือจากสถานี Konosu ของรถไฟ JR Takasaki นั่งรถบัสท่องเที่ยว Kawagoe สายมุ่งหน้าไปสถานี Higashi Matsuyama ลงที่ป้าย Hyakuana Iriguchi แล้วเดินต่อ 5 นาที
เว็บไซต์: https://www.town.yoshimi.saitama.jp/soshiki/shogaigakushuk/7/909.html

Kasukabe และ Yoshimi จุดสัมผัสประสบการณ์งานฝีมือดั้งเดิมที่ไม่ควรพลาด

ไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้ของคุณ หากคุณยังคงเรียกดู แสดงว่าคุณยอมรับการใช้คุกกี้บนเว็บไซต์นี้ ยอมรับ