Chichibu Fudasho Meguri เส้นทางสัมผัสวัฒนธรรมการแสวงบุญของญี่ปุ่น

วัด Shimabuji เป็นสถานที่แรกที่คุณจะพบในเส้นทางแสวงบุญ Chichibu Fudasho Muguri วัดนี้มีประวัติศาสตร์เก่าแก่กว่า 1,000 ปี กล่าวกันว่ามีจุดเริ่มต้นจากการที่ลูกศิษย์ของพระสงฆ์ที่มีชื่อเสียงในละแวก Harima (จังหวัด Hyogo ในปัจจุบัน) ได้มาฝึกตนและอ่านบทสวดที่บริเวณนี้ อาคารหลักของวัดนี้สวยงามมาก ถึงขนาดได้รับการระบุให้เป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่จับต้องได้ของไซตามะ เป็นสถานที่ห้ามพลาดสำหรับผู้ที่สนใจประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของญี่ปุ่น หลังคาของอาคารดังกล่าวเป็นสไตล์สถาปัตยกรรมดั้งเดิมของญี่ปุ่นที่เรียกว่า Irimoya Zukuri โดยสร้างขึ้นให้หลังคาทับซ้อนกันเป็นบางส่วน ที่เคาน์เตอร์ของวัดนี้ยังมีสมุดประทับตรา Goshuin และอุปกรณ์อื่นๆ ที่จำเป็นต่อการแสวงบุญวางจำหน่ายอยู่อีกด้วย

วัด Kinshoji เป็น Fudasho ลำดับที่ 4 มีชื่อเสียงในฐานะ "วัดพุทธรูปหิน" เป็นที่ตั้งของซุ้มประตู Niomon ที่โดดเด่นที่สุดในบรรดา Chichibu Fudasho ทั้งหมด ภายในพื้นที่วัดมีพุทธรูปหินกว่า 1,300 องค์ประดิษฐานไว้ กล่าวกันว่าสร้างขึ้นเพื่อสวดส่งวิญญาณให้กับผู้ที่เสียชีวิตจากสถานการณ์ขาดแคลนอาหารครั้งใหญ่ในยุคเอโดะ (ราวปลายศตวรรษที่ 18 ถึงต้นศตวรรษที่ 19) โดยในอดีตนั้นมีอยู่ถึงกว่า 3,800 องค์เลยทีเดียว พุทธรูปเหล่านี้มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์มาก แสดงให้เห็นว่าผู้คนในยุคนั้นให้ความสำคัญกับพุทธศาสนาเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้ ด้านขวามือของระเบียงทางเดินของอาคารหลักยังเป็นที่ตั้งของเทวรูป Kannon ในปางให้นมเด็กอันโด่งดัง คอยเยียวยาจิตใจของผู้ที่มาพบเห็นด้วยสีหน้าแสนอ่อนโยน

วัด Hashidatedo เป็น Fudasho ลำดับที่ 28 ตั้งอยู่หน้ากำแพงหินสูงใหญ่ และโดดเด่นด้วยอาคารสักการะโพธิสัตย์ Kannon สวยๆ ที่ทาด้วยสีแดงสด กล่าวกันว่าอาคารนี้สร้างขึ้นในยุคเอโดะตอนกลาง (ประมาณปี 1700 - 1780) ภายในเป็นที่ประดิษฐานของพุทธรูป Bato Kanzeon ซึ่งเป็นผลงานจากยุคคามาคุระ (ปี 1185 - 1333) Fudasho ที่สักการะ Bato Kanzeon เป็นเทพองค์หลักนั้นมีน้อยมาก ได้รับการเคารพมาแต่โบราณในฐานะเทพคุ้มครองม้าและช่วยให้เดินทางปลอดภัย แม้ในปัจจุบันจะไม่มีการใช้ม้าเป็นพาหนะเดินทางแล้ว แต่ก็ยังมีผู้คนมากมายที่เดินทางมาจากสถานที่ห่างไกลเพื่อขอพรให้เดินทางโดยปลอดภัย ข้างๆ วัดนี้มีถ้ำหินปูน Hashidate ที่เป็นที่คุ้นเคยมาแต่โบราณในฐานะสถานที่ชำระล้างร่างกายและจิตใจของเหล่านักแสวงบุญ ทางเข้าและทางออกของถ้ำมีระดับความสูงต่างกันประมาณ 33 เมตร ช่วยให้สามารถสัมผัสกับการผจญภัยที่น่าตื่นเต้น หากวางแผนที่จะแวะมาก็ขอแนะนำให้สวมรองเท้าที่เดินสะดวกไว้ด้วย

จุดหมายสุดท้ายของเราคือวัด Hoshoji ที่เป็น Fudasho ลำดับที่ 32 เมื่อลอดผ่านซุ้มประตู Niomon และเดินขึ้นบันไดหินไปก็จะพบอาคารหลักของวัดนี้ ถัดจากอาคารหลักของวัดแผ่กว้างไปด้วยบริเวณที่ปกคลุมไปด้วยมอสสวยๆ จนถูกเรียกว่าเป็น "วัดมอสแห่ง Chichibu" วัดนี้ได้ใช้ประโยชน์จากภูมิประเทศที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ (Chichibu Geopark) เมื่อเดินขึ้นบันไดที่ทำจากการแกะสลักโขดหินขึ้นไป ก็จะพบกับอาคารสักการะโพธิสัตย์ Kannon ตั้งอยู่บริเวณด้านล่างโพรงถ้ำ อาคารนี้เป็นอาคารสไตล์ Butai Zukuri สวยๆ ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ก่อสร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1707 เมื่อเดินต่อไปตามทางเขาก็จะพบกับอาคาร Oku no In เป็นบริเวณที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์สุดอลังการ ช่วยให้ลืมความเหนื่อยล้าจากการเดินเขาได้เลย นอกจากนี้ ด้านหน้าอาคารหลักก็ยังมีร้านค้าที่วางขายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับ Chichibu Fudasho เช่น สมุดประทับตรา กระเป๋าสะพาย และเสื้อยืด เป็นอีกจุดที่ไม่ควรพลาดเช่นกัน