ช่วงเวลาแแห่งสุขภาพและรายล้อมไปด้วยธรรมชาติที่ตอนเหนือใกล้โตเกียวนิดเดียว!

features

ช่วงเวลาแแห่งสุขภาพและรายล้อมไปด้วยธรรมชาติที่ตอนเหนือใกล้โตเกียวนิดเดียว!
พื้นที่ส่วนตะวันตก ธรรมชาติ อาหารและเครื่องดื่ม

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จากมุมมองด้านสุขภาพและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม อาหารวีแกนและอาหารมังสวิรัติที่กินผักเป็นจำนวนมากกำลังได้รับตวามสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ

 

ในประเทศญี่ปุ่นจะเห็นผู้คนมากมายที่เริ่มทำปลูกผักสวนครัวของตัวเอง

 

ครั้งนี้เราจะมาแนะนำทริปเพื่อสุขภาพที่ฮันโนะซึ่งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจังหวัดไซตามะ ทริปนี้จะทำให้คุณสามารถฟื้นฟูประสาทสัมผัสทั้งห้าในขณะที่เพลิดเพลินไปกับธรรมชาติ

เมืองฮันโนะเป็นพื้นที่ที่คุณสามารถสัมผัสกับธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ของโอคุมูซาชิ

 

สามารถเดินทางไปได้ในเวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงโดยรถไฟจากอิเคะบุคุโระในเมืองโตเกียว

 

เนื่องจากพื้นที่ของเมืองประมาณ 3 ใน 4 ถูกปกคลุมไปด้วยป่าไม้ จึงมีประวัติของความเจริญรุ่งเรืองในฐานะพื้นที่ผลิต “ไม้นิชิกาวะ” คุณภาพสูงมาตั้งแต่สมัยเอโดะ และได้สืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน ต้องขอบคุณประวัติศาสตร์อันยาวนานของการทำป่าไม้ ผู้คนในฮันโนจึงมีวิถีชีวิตที่อยู่ร่วมกับต้นไม้และป่าไม้มาอย่างยาวนาน

 

ในครั้งนี้เกี่ยวกับอาหารเพื่อสุขภาพ ได้ยินมาว่ามีผักที่เรียกว่า “ผักจากเมล็ดผักพันธุ์เปิด” ที่นำเมล็ดผักที่ได้จากการเพาะปลูกในรุ่นถัดๆกันไปมาทำการเพาะปลูกขยายพันธุ์โดยการทำฟาร์มแบบธรรมชาติและไปสัมผัสกับการเพาะปลูกขยายพันธุ์ผักที่ร้านขายเมล็ดพันธุ์ที่เชี่ยวชาญด้านเมล็ดผักพันธุ์เปิดโดยเฉพาะในเมืองฮันโนะ

 

เราจึงจะมาบอกถึงเสน่ห์ของฮันโนะที่คุณสามารถเพลิดเพลินกับอาหารวีแกนที่ร้านอาหารกินดื่มในท้องถิ่น ได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติ และการใช้ชีวิตร่วมกับป่าไม้

 

ลองเดินทางออกมาจากโตเกียวเพียงเล็กน้อยแล้วมาสัมผัสประสบการณ์การท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพเช่นนี้ที่ไซตามะกันดูไหม?

Noguchi Seeds

ก่อนอื่นเรามาเริ่มกันที่ “Noguchi Seeds”

 

ร้านจำหน่ายเมล็ดพันธุ์แห่งเดียวในญี่ปุ่นที่จำหน่ายเฉพาะเมล็ดของผักจากเมล็ดผักพันธุ์เปิดเท่านั้น

 

“Noguchi Seeds” ตั้งอยู่ริมแม่น้ำนากุริ ใช้เวลาประมาณ 20 นาทีโดยรถประจำทางจากสถานีฮันโนะ เมื่อมาถึงหน้าร้านสิ่งแรกที่จะดึงดูดสายตาก็คือป้ายร้าน “ฟีนิกซ์” ของศิลปินมังงะ โอซามุ เทะสึกะ

 

สิ่งนี้เกี่ยวข้องกับอาชีพของคุณอิซาโอะ โนงุจิ ในฐานะบรรณาธิการคนแรกของ “ฟีนิกซ์” ของคุณโอซามุ เทะสึกะ ก่อนที่จะเข้ามาสานต่อธุรกิจขยายพันธุ์ต้นกล้าของครอบครัว

 

 

และเมื่อเข้าไปในร้านแล้วจะต้องตื่นตาตื่นใจกับถุงเมล็ดพันธุ์ต่างๆ พวกเขาเก็บรวบรวมเมล็ดพันธุ์ 600 ถึง 700 ชนิดต่อปี มีตั้งแต่ผักที่พบเห็นได้บ่อยๆ เช่น กะหล่ำปลี ผักกาดขาว และผักกวางตุ้ง รวมถึงผักที่หายากสักหน่อย ทั้งหมดนี้เป็นเมล็ดของผักจากเมล็ดผักพันธุ์เปิด

เราได้สัมภาษณ์คุณโนงุจิและคุณโอโนจิ เจ้าของร้าน “Noguchi Seeds”

 

เมล็ดผักพันธุ์เปิดคือเมล็ดที่ใช้กันมาเป็นเวลานานตั้งแต่สมัยก่อน

 

และถึงแม้จะมีลักษณะที่ไม่เหมาะสำหรับการผลิตจำนวนมากเนื่องจากสภาพการเจริญเติบโตที่มีความแปรผัน แต่อีกด้านหนึ่งก็สามารถสัมผัสได้ถึงรสชาติความอร่อยเมื่อได้ทาน เพราะจะได้ “รสชาติผัก” แบบดั้งเดิมจริงๆ ในทางกลับกันสิ่งที่กลายเป็นกระแสหลักในการเกษตรสมัยใหม่คือเมล็ดพันธุ์ที่เรียกว่า “F1” (ลูกผสมรุ่นที่ 1:first filial generation) ซึ่งสามารถผลิตได้ในปริมาณมากด้วยให้คุณภาพแบบเดียวกัน

 

เมล็ดพันธุ์ F1 มีความจำเป็นต่อความต้องการอาหารของโลก แต่ก็มีความกังวลเกี่ยวกับปรากฏการณ์ต่างๆ เช่น การกำจัดจุลินทรีย์ที่อาศัยอยู่ในดินจากการฉีดพ่นสารกำจัดวัชพืชบนดินเพื่อการเพาะปลูก และการใช้สายพันธุ์ที่ “ไม่มีเกสรตัวผู้” เพื่อผลิตผักที่ไม่สามารถให้กำเนิดลูกหลานได้เพิ่มขึ้น

 

ดังนั้นที่ Noguchi Seeds จึงมุ่งเน้นไปที่การจัดหาเมล็ดของผักจากเมล็ดผักพันธุ์เปิด จากความคิดที่ว่าต้องการเพาะปลูกด้วยตนเองและให้ดำรงชีวิตอยู่ต่อไปได้ วิธีคิดนี้สามารถพูดได้ว่าเป็นความคิดริเริ่มที่นำไปสู่ ​​SDGs (เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน) ซึ่งดึงดูดความสนใจไปทั่วโลก

ภายในร้านมีเครื่องที่เรียกว่าเครื่องเพาะ และก่อนที่จะขายเมล็ดที่เก็บได้ จะทำการทดสอบเพื่อดูว่าเมล็ดสามารถงอกได้อย่างถูกต้องหรือไม่

 

คุณโนกุจิให้คุณค่ากับความไว้วางใจของลูกค้าและความเพลิดเพลินในการปลูกผัก โดยกล่าวว่า “คงเป็นเรื่องน่าเศร้าหากเมล็ดที่ลูกค้าอุตส่าห์ซื้อไปนั้นไม่งอก”

 

ครั้งนี้เราไปดูสวนผักซึ่งเป็นผักจากเมล็ดผักพันธุ์เปิดของ “Noguchi no Tane” ที่แรกที่ไปคือสวนผักที่อยู่บนยอดเขา เหตุผลที่ทำสวนผักบนยอดเขาสูงชันนั้น คุณโอโนจิอธิบายว่าเป็นเพราะการรวบรวมเมล็ดของผักจากเมล็ดผักพันธุ์เปิด

 

ต้องรักษาระยะห่างจากสภาพแวดล้อมให้เพียงพอเพื่อป้องกันไม่ให้สารต่างๆ เกาะติดกับผัก จำเป็นต้องรักษาคุณภาพของเมล็ดผักพันธุ์เปิดที่แท้จริงเอาไว้

 

การดูรูปร่างของใบหัวผักกาดที่ปลูกไว้ด้านหนึ่งดูเหมือนจะบ่งบอกว่าได้ว่าหัวผักกาดเติบโตได้ดีในฐานะผักจากเมล็ดผักพันธุ์เปิดหรือไม่

ในทางกลับกัน มีสวนผักจากเมล็ดผักพันธุ์เปิดอีกแห่งใกล้เขตเมือง มีการปลูกผักชนิดพันธุ์ที่ได้รับผล

 

กระทบจากสภาพแวดล้อมในการปลูกได้ยาก ที่นี่มีหลายพันธุ์ที่คุณโอโนจิปลูกไว้เพื่อทดสอบ และยังมีผัก เช่น มะเขือเทศและมะเขือม่วงที่เป็นพันธุ์จากต่างประเทศที่หาไม่ได้ในญี่ปุ่น ไม่ใช้ปุ๋ยหรือยาฆ่าแมลง คุณจึงเลือกเก็บทานสดๆได้เลย

 

No fertilizers or pesticides are used, so you can pick and eat them as they are.

 

เมื่อเก็บเกี่ยวผักจากเมล็ดผักพันธุ์เปิดแต่ละชนิด ต้องคัดเลือกเมล็ดที่ดีที่สุดอย่างระมัดระวังเท่านั้น

 

รู้สึกได้ว่าเคล็ดลับในการผลิตเมล็ดพันธุ์คุณภาพสูงอยู่ที่ความรักที่ผู้คนที่เกี่ยวข้องใช้ในการปลูกมัน และในมาตรฐานการตัดสินที่แน่วแน่

 

ตามที่คุณโอโนจิได้กล่าวไว้ว่า ทุกวันนี้ผู้คนมีจิตสำนึกด้านสุขภาพเพิ่มขึ้น ไม่เพียงแต่จำนวนลูกค้าที่แสวงหาเมล็ดผักพันธุ์เปิดและเมล็ดพันธุ์ของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น แต่เกษตรกรท้องถิ่นในเมืองฮันโนะและผู้คนที่เพิ่งย้ายมาที่ฮันะโนก็เริ่มปลูกเมล็ดผักพันธุ์เปิดกันมากขึ้นเรื่อยๆ ความพอเพียงจากการเพาะเมล็ดผักจากเมล็ดผักพันธุ์เปิดด้วยตนเอง จะทำให้เชื่อมโยงกับชีวิตและจะเป็นประโยชน์ต่อมวลมนุษยชาติและความหลากหลายของธรรมชาติอีกด้วย

*โปรดทราบว่าการนำเมล็ดพันธุ์ผักไปต่างประเทศอาจถูกห้ามโดยขึ้นอยู่กับประเทศหรือชนิดพันธุ์

 

<Noguchi Seeds>

ที่อยู่ : 192-1 Kosedo, Hanno City, Saitama, รหัสไปรษณีย์ 357-0067

การเดินทาง: ประมาณ 20 นาทีโดยรถประจำทางหรือรถยนต์จากสถานีฮันโนะ บนสาย Seibu Ikebukuro

URL: https://noguchiseed.com/

Chojuan

หลังจากเรียนรู้เกี่ยวกับผักที่ปลูกจากเมล็ดผักพันธุ์เปิดแล้ว ลองมาทานอาหารที่ปรุงจากผักแสนอร่อยเหล่านี้กันดูไหม?

 

ต่อไปเราจะไปที่ “Chojuan” ร้านโซบะสไตล์จีนในย่านช้อปปิ้งฮันโนะกินซ่า ร้านนี้อยู่ห่างจากสถานีฮันโนะโดยใช้เวลาเดินประมาณ 5 นาที

 

ลักษณะของร้านทำให้รู้สึกถึงบรรยากาศแบบญี่ปุ่นสมัยก่อน เมื่อเดินผ่านม่านโนเร็นที่อยู่หน้าร้าน

 

คุณจะถูกโอบล้อมด้วยบรรยากาศที่ชวนให้นึกถึงบ้านที่อบอุ่น แม้มาคนเดียวก็สามารถมานั่งทานได้แบบสบายๆ

 

เพื่อตอบสนองกับความต้องการด้านอาหารวีแกนและมังสวิรัติซึ่งเพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ที่ร้าน Chojuan ได้ให้บริการเกี่ยวกับเมนูอาหารมังสวิรัติแบบตะวันออกมาระยะหนึ่งแล้ว

 

แน่นอนว่าผักที่ใช้นั้นเป็นผักในภูมิภาคโดยเน้นที่ผักจากเมล็ดผักพันธุ์เปิดของท้องถิ่นที่เก็บเกี่ยวในฮันโนะ

สิ่งที่เราสั่งมาทานในครั้งนี้คือ “ผักจากเมล็ดผักพันธุ์เปิด แบบรวม 3 เท่า โทคิเมะคิ แกงกะหรี่ อุด้ง” ซึ่งเป็นเมนูใหม่สำหรับวีแกนแบบตะวันออก

 

 

ผักหลากสีวางเรียงเป็นแถว ชวนน่ารับประทาน สำหรับตัวผักนั้นจะทานแบบนั้นเลยหรือจะทานกับแกงกะหรี่ก็ได้ เส้นอุด้งมีความเหนียวและเข้ากันได้ดีกับแกงกะหรี่ มีปริมาณมากทานได้อิ่มเต็มที่

 

 

เมื่อได้ถามคุณยาชิโระผู้เป็นเจ้าของร้านเกี่ยวกับเมนูจานนี้ ดูเหมือนว่าน้ำซุปดาชินั้นทำได้ยาก เนื่องจากไม่ได้ใส่ปลาคะสึโอะในการทำน้ำซุป จึงทำให้กลุ้มกับการปรุงรสเพื่อใช้ทดแทน ดังนั้นเขาจึงผสมเครื่องเทศอินเดียประมาณ 10 ชนิดกับคอมบุและ “มิโซะโทคิเมะคิ” ของเมืองฮันโนะเป็นส่วนผสมลับ และจากการลองผิดลองถูก

จึงได้ทำอุด้งแกงกะหรี่แบบเผ็ดเล็กน้อยที่ดึงความหวานตามธรรมชาติของผักออกมาได้สำเร็จ “มิโซะโทคิเมะคิ” ได้รับการพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์โดยสมาคมสตรี “โทคิเมะคิ” ซึ่งสนับสนุนการทำป่าไม้ของ “ไม้อิชิกาวะ” ที่คอยอุ้มชูความเจริญรุ่งเรืองของฮันโนะมาตั้งแต่สมัยเอโดะ เป็นมิโซะที่ได้รับความนิยมอย่างมากในท้องถิ่นและในหมู่คนวงใน

 

เนื่องจากไม่มีการใช้เนื้อหรือปลา ผักและเครื่องเทศที่มีความฉุน สำหรับผู้ที่ทานอาหารวีแกนหรือมังสวิรัติ หรือแม้กับคนที่ไม่ได้ทาน รวมถึงผู้ที่อยากลองรสชาติความอร่อยของผักจากเมล็ดผักพันธุ์เปิด

ลองสั่งเมนูนี้มาทานกันดูได้

 

ส่วนผสมสำหรับเมนูวีแกนแบบตะวันออกที่เป็นเมนูใหม่นี้มีจำหน่ายที่ร้านตลอด เมื่อมาสั่งโดยตรงที่ร้านก็จะสามาถรับประทานได้ทุกเมื่อ! คุณสามารถเลือกจากสองรสชาติคือ  “แกงกะหรี่โทคิเมะคิ” และ “แบบถั่ว” ซึ่งเป็นอาหารวีแกนแบบตะวันออกทั้งคู่ นอกจากนี้ยังมีอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมอย่าง “คิทสึเนะอุด้ง” (อุด้งที่ทำจากสาหร่ายคอมบุและราดด้วยเต้าหู้ทอดหวาน) ที่เป็นเมนูสำหรับผู้ที่ทานอาหารวีแกนแบบตะวันออกเช่นกัน

 

คุณยาชิโระเจ้าของมีความเป็นกันเองและเฟรนลี่มาก ดังนั้นหากคุณมีคำถามเกี่ยวกับฮันโนะ ก็สามารถลองพูดคุยกับเขาได้ตอนมาทานอาหารที่ร้าน

 

<Chojuan>

ที่อยู่: 7-28 Nakacho, Hannō City, Saitama

การเดินทาง: เดินประมาณ 5 นาทีจากสถานีฮันโนะ สาย Seibu Ikebukuro

เวลาทำการ: 11:00-15:00 (เวลาทำการสั้นลง)

*เวลาทำการอาจมีการเปลี่ยนแปลง ตรวจสอบได้จาก URL ด้านล่าง)

วันหยุดประจำ: วันพฤหัสบดี

URL: https://twitter.com/chojyuanhanno

Nolla Naguri

ลองมาพักที่แกลมปิ้งยอดนิยมที่เพิ่งเปิดในปี 2020 และเพลิดเพลินกับบาร์บีคิวในพื้นที่เปิดโล่งของภูเขากันดูไหม?

 

สำหรับบาร์บีคิวยังมีเมนูอาหารวีแกนแบบตะวันออกอีกด้วย

 

ใช้เวลาประมาณ 40 นาทีโดยรถประจำทางจากสถานีฮันโนะ อยู่ใกล้กับทะเลสาบนากุริ ก็จะได้พบกับสถานอำนวยความสะดวกครบวงจร “Nora Naguri” ซึ่งสามารถสัมผัสวัฒนธรรมนอร์ดิกในสถานที่ที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติ

 

ในสถานที่แกลมปิ้งมีพื้นที่สำหรับพักผ่อนได้อย่างสบายโดยไม่ต้องเร่งรีบ มีลานรับประทานอาหารที่คุณสามารถเพลิดเพลินกับบาร์บีคิว และซาวน่ากลางแจ้งสไตล์นอร์ดิก นอกจากนั้นในบริเวณใกล้เคียงยังมีน้ำพุร้อนธรรมชาติ “Sawarabi no Yu” ซึ่งใช้ “ไม้นิชิกาวะ” คุณสามารถมาใช้เวลาคุณภาพเพื่อทำให้ตัวเองสดชื่นในสภาพแวดล้อมของภูเขา

 

เมนูวีแกนแบบตะวันออกที่คุณสามารถลิ้มลองได้ที่นี่คือ Brochette ที่ไม่ผสมผักที่มีกลิ่นฉุนและเครื่องเทศรสเผ็ดร้อนในแบบโนราดั้งเดิม โดยใช้ผักที่ปลูกด้วยเมล็ดผักพันธุ์เปิดจากฮันโนะและเนื้อถั่วเหลือง แม้คนที่ไม่ได้ทานอาหารวีแกนหรือมังสวิรัติหรือมังสวิรัติก็สามารถเพลิดเพลินกับความอร่อยได้

 

เนื้อถั่วเหลืองหมักนั้นมีความนุ่มและชุ่มฉ่ำมาก และสีสันของผักต่างๆยังเป็นอาหารที่สวยงามอีกด้วย

 

เมนูวีแกนแบบตะวันออกจำหน่ายเป็นเมนูบาร์บีคิวเพิ่มเติมและต้องจองล่วงหน้า

Nora Naguri สามารถเดินทางไปใช้บริการได้แบบไปเช้าเย็นกลับหรือค้างคืน และยังสามารถเพลิดเพลินกับการซื้อผักท้องถิ่นและผลิตภัณฑ์พิเศษต่างๆได้

 

นอกจาก “ซาวน่าคลับ” ที่สามารถเช่าเต็นท์ซาวน่าสไตล์ฟินแลนด์ และบาร์บีคิว “Cocco BBQ” สไตล์นอร์ดิกแล้ว คุณยังสามารถเพลิดเพลินกับการเลือกซื้อสินค้าพิเศษที่ผลิตในพื้นที่และผักได้อีกด้วย

 

<Nolla Naguri>

ที่อยู่ : 607-1 Naguri, Shimonaguri, Hannō City, Saitama

การเดินทาง : ประมาณ 40 นาทีโดยรถประจำทางจากสถานีฮันโนะ (ทางออกทิศเหนือหมายเลข 3)

และลงรถที่ป้าย “โนรานากุริ / ซาวาระบิโนะยุ” เดินไม่ไกลจากป้ายรถบัส

วันหยุด : เปิดตลอดทั้งปี (มีการปิดชั่วคราว ตรวจสอบได้จาก URL ด้านล่าง)

URL: http://www.nolla-naguri.jp/

<คลิกที่นี่สำหรับบทความที่เกี่ยวข้อง>

https://th.chocotabi-saitama.jp/magazine/nolla-naguri

ครั้งนี้เราได้แนะนำเมืองฮันโนะที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพ ธรรมชาติ และความยังยืนของประเพณี สามารถเดินทางมาเยือนเมืองฮันโนะได้อย่างง่ายดายโดยนั่งรถไฟจากโตเกียวและเพลิดเพลินกับการเดินทางที่ทำให้จิตใจและร่างกายของคุณสดชื่น

 

ในเมืองฮันโนะยังมีสวนสนุกยอดนิยมอย่าง “มูมินวัลเลย์พาร์ค”“นากูริ แคนู สตูดิโอ” ที่คุณสามารถลองสร้างสิ่งต่างๆ และสัมผัสประสบการณ์พายเรือแคนูได้ และ OH!!!~การหมัก、สุขภาพ、เวทมนต์ของอาหาร!!!” และที่อื่นๆอีกมากมาย

 

สำหรับผู้ที่ทานอาหารวีแกนและมังสวิรัติ หรือผู้ที่ไม่ได้ทานมังสวิรัติก็สามารถเพลิดเพลินกับการเที่ยวชมสถานที่ต่างๆและอาหารอร่อยได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องกังวลเรื่องอาหาร ทริปญี่ปุ่นในครั้งต่อไปขอให้ลองมาสัมผัสเสน่ห์ของฮันโนะ

ไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้ของคุณ หากคุณยังคงเรียกดู แสดงว่าคุณยอมรับการใช้คุกกี้บนเว็บไซต์นี้ ยอมรับ