ร้านอาหาร

เป็นสถานที่เพื่อวัตถุประสงค์ในการส่งเสริมการย้ายถิ่นฐานไปยังเมืองฮาโตยามะ สนับสนุนการเป็นผู้ประกอบการ และการแลกเปลี่ยนสื่อสารของคนหลายช่วงวัย ในห้องโถงมี "Machiokoshi Cafe" มีบริการอาหารกลางวันโดย１DAY, มีจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มเ่น ข้าวกล่อง แซนวิช ขนมหวาน และจำหน่ายงานแฮนด์เมดโดยศิลปินในพื้นที่ฮิกิ รวมถึงผักพื้นบ้าน

ื่ทางร้านยังมีลักษณะที่หลงเหลือมาตั้งแต่ตอนก่อตั้งที่เหมือนกับตอนเปิดเมืองเอโดะ เมื่อประมาณ 400 ปีที่แล้ว คุณสามารถเพลิดเพลินกับคอร์สอาหารปลาดุกที่รสชาติกับเนื้อสัมผัสด้วยวิธีการปรุงที่หลากหลายทั้งการแร่ การย่าง และการทอดที่ทำให้รสชาติแบบดั้งเดิมซึ่งเหล่าผู้ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ก็ทานอย่างเอร็ดอร่อย

ร้านอาหารเก่าแก่ที่มีรสชาติและความชำนาญที่สืบทอดมาจากร้านอาหารตั้งแต่เริ่มก่อตั้งในสมัยเอโดะและให้การต้อนรับด้วยใจบริการอย่างเต็มที่ สามารถเพลิดเพลินกับอาหารไคเซกิปลาดุก รวมถึงอาหารปลาดุกที่มีความประณีตอีกด้วย

จากเวลาที่เดินลอดประตูนางายะมง พื้นที่พิเศษที่ยังคงรูปลักษณ์ของบ้านเก่าไว้ ทำให้คุณรู้สึกสบายใจและหวนคิดถึงความหลังนั้นกำลังรอคุณอยู่ กุหลาบในสวนบานเต็มที่และภายในอาคารยังมีร้านอาหาร "ฮานะออนริอุด้ง" และ "ศูนย์การผลิตในท้องถิ่น" ที่มีผักสดมากมาย ทำให้สามารถใช้เวลาพักผ่อนได้อย่างเต็มที่

สถานีพักรถ "โชวะ" ล้อมรอบไปด้วยภูมิทัศน์ชนบทที่เป็นพื้นที่เพาะปลูกกับป่าไม้อันอุดมสมบูรณ์ และอยู่ในสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่ทำให้รู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงในแต่ละฤดูกาล ที่อาคารจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ไม่เพียงแต่ผลิตภัณฑ์ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Kasukabe เท่านั้น แต่ยังรวบรวมผลิตภัณฑ์พิเศษจากทั่วประเทศและจำหน่ายของที่ระลึกต่างๆ สำนักงานขายตรงสินค้าเกษตรจำหน่ายผักสดในท้องถิ่นและเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว คุณยังสามารถเพลิดเพลินกับอาหารได้ที่ร้านอาหาร "โชกุไซคัง"

「อินะโฮเทระซุ」สถานที่ขายตรงฮิงาชิมัตสึยามะของ JA ไซตามะจูโอเป็นอาคารแบบเปิดที่ใช้ไม้ในท้องถิ่นและใช้ประโยชน์จากวัสดุธรรมชาติให้เกิดประโยชน์สูงสุด มีการรับสมัครชื่อของสถานที่จากพลเมืองฮิงาชิมัตสึยามะ และรวงข้าวมีความหมายว่า "ส่องสว่าง" อนาคตที่สดใสให้กับผู้คน จึงทำให้ชื่อ "อินะโฮเทระซุ" เป็นชื่อที่ได้รับเลือก นอกจากนี้เรายังมีสินค้าแปรรูปจากลูกแพร์และเกาลัด เซมเบ้ยากิโทริ ขนมหวาน และของที่ระลึกอื่นๆ จากเมืองฮิกาชิมัตสึยามะ

แต่เดิมเป็นร้านหลักที่เป็นผู้ค้าส่งผ้าไหมเมเซ็นที่รุ้งเรืองช่วงสมัยไทโช ปัจจุบันได้รับการปรับปรุงใหม่ให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในฐานะร้านอาหารโซบะทำมือ รวมทั้งให้บริการอาหารท้องถิ่น และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นที่ใช้ประโยชน์จากโกดัง