สิ่งที่ต้องทำ
ผลการค้นหา305

สวนโทะไกเอนเดิมตั้งอยู่ในบริเวณวัดเร็นเกอิน ซึ่งเป็นวัดพุทธนิกายชิงงอน หลังจากที่เจ้าอาวาส โคโซะ ฟูจิโอกะ ทิ้งวัดนี้ในปี ค.ศ. 1864 สวนนี้จึงถูกโอนกรรมสิทธิ์ให้กับเจ้าของปัจจุบัน ตามตำนาน ดอกวิสเทอร์เรียที่นี่ถูกปลูกโดย โคโบ ไดชิ* ด้วยตัวเองเมื่อเกือบ 1,200 ปีที่แล้ว *โคโบ ไดชิ หรือที่รู้จักกันในชื่อ คูไค เป็นพระสงฆ์ผู้ก่อตั้งนิกายชิงงอนของศาสนาพุทธ

ศาลเจ้าแห่งนี้อุทิศให้กับเทพเจ้าในตำนานแห่งการเกษตร คือ ทาคามิมุซุบิ ศาลเจ้าถูกทำลายจากเหตุไฟไหม้ในปี ค.ศ. 1590 และได้รับการบูรณะใหม่โดยอาเบะ มาซาโยชิ ผู้ครองปราสาทโอโอชิ มีการจัดงานเทศกาลประจำปีหลายงาน เช่น งานเซตสึบุน (การแบ่งฤดูกาล) ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ งานไทไนคุรุงิ (พิธีผ่านช่องท้อง) ในวันที่ 30 มิถุนายน และงานโทริโนะอิจิ (เทศกาลไก่) ในวันที่ 8 ธันวาคม

หมู่บ้านบอนไซโอมิยะก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2468 โดยช่างทำบอนไซที่ย้ายมาจากโตเกียวหลังจากเกิดแผ่นดินไหวใหญ่คันโต พวกเขาเลือกจังหวัดไซตามะเพราะมีอากาศบริสุทธิ์ น้ำสะอาด และพื้นที่กว้างขวาง เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเพาะเลี้ยงบอนไซ ปัจจุบันหมู่บ้านแห่งนี้ยังคงเป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรมบอนไซในญี่ปุ่น โดยมีร้านบอนไซ (บอนไซ-เอน) อยู่ทั้งหมด 6 แห่ง แต่ละแห่งมีสไตล์และเรื่องราวของตัวเอง ติดกับหมู่บ้านนี้คือพิพิธภัณฑ์ศิลปะบอนไซโอมิยะ ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์สาธารณะแห่งแรกของโลกที่อุทิศให้กับบอนไซโดยเฉพาะ ที่นี่เหมาะสำหรับเริ่มต้นการเยี่ยมชม เพราะให้ทั้งข้อมูลพื้นฐาน การจัดแสดงที่สวยงาม และความเข้าใจลึกซึ้งเกี่ยวกับศิลปะบอนไซ หมู่บ้านตั้งอยู่ไม่ไกลจากสถานีโอมิยะโคเอ็นหรือโทโระ และสามารถเดินถึงได้สะดวก หมู่บ้านเปิดตลอดทั้งปี แต่ช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วงจะเป็นช่วงที่ดีที่สุดในการเยี่ยมชม เพราะต้นไม้และสวนจะสวยงามเป็นพิเศษในช่วงนั้น

โรงกลั่นสาเกที่ครองสถิติของจังหวัดในการคว้าเหรียญทองจากการประกวดสาเกระดับประเทศ (Annual Japan Sake Awards) ติดต่อกันถึง 8 ปี โรงกลั่นมัตสึโอกะเริ่มต้นจาก มัตสึโอกะ เอมอน ผู้ก่อตั้งรุ่นแรก ซึ่งได้ย้ายโรงกลั่นจากจังหวัดนีงาตะมายังเมืองโอกาวะมาจิ เพื่อแสวงหาน้ำคุณภาพที่ดีกว่า น้ำที่ใช้ในการกลั่นมาจากเทือกเขาจิจิบุ ซึ่งอุดมไปด้วยแร่ธาตุ และสูบขึ้นมาจากใต้ดินลึก 130 เมตร สำหรับผู้ที่สนใจสามารถจองทัวร์โรงกลั่นล่วงหน้าได้ โดยภายในทัวร์จะได้เยี่ยมชมคลังผลิต เรียนรู้กระบวนการกลั่นสาเก และชิมสาเกหลากหลายชนิด ไอศกรีมไดกินโจ (สาเกเกรดพรีเมียม) ซึ่งจำหน่ายที่ร้านขายตรงของโรงกลั่น เป็นที่ชื่นชอบทั้งในหมู่เด็กและผู้ใหญ่ นอกจากนี้ยังมีร้านอาหาร “โชฟุอัง” ตั้งอยู่ติดกับโรงกลั่นอีกด้วย

ฟุคายะ กรีนพาร์ค เปิดให้บริการในเมืองฟุคายะเมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 1996 โดยเป็นโครงการที่ได้รับเงินสนับสนุนจากกระทรวงเกษตรฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมด้านการเกษตร เสริมสร้างความมั่นคงและเข้มแข็งในการบริหารจัดการ พร้อมทั้งมีบทบาทในการส่งเสริมสุขภาพและความแข็งแรงของประชาชนทั่วไป สวนแห่งนี้มีพื้นที่ทั้งหมด 54,000 ตารางเมตร หรือประมาณขนาดเดียวกับโตเกียวโดม ภายในประกอบด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกในร่มชื่อว่า พาราไดซ์พาทิโอ (รู้จักกันในชื่อ “พาทิโอ”) รวมถึงลานกิจกรรมขนาดใหญ่และเล็กหลากหลายแห่ง เช่น ลานหญ้า เป็นต้น พาทิโอ (พื้นที่ 7,769 ตารางเมตร) ได้รับการออกแบบให้มีบรรยากาศคล้ายรีสอร์ตริมชายฝั่งแถบยุโรปตอนใต้และเมดิเตอร์เรเนียน จุดเด่นคือสระว่ายน้ำในร่มเพื่อการพักผ่อนขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคคันโตตอนเหนือ อีกหนึ่งไฮไลต์ของสวนแห่งนี้คือ แปลงดอกไม้ขนาดใหญ่ (พื้นที่ 1,157 ตารางเมตร) ที่เต็มไปด้วยดอกไม้หลากสีสันสวยงาม

ไวน์ชิชิบุ ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1940 โดย เก็นซาคุ อาซามิ เป็นโรงผลิตไวน์ที่เก่าแก่ที่สุดในจังหวัดไซตามะ ด้วยรางวัลมากมายและความผูกพันลึกซึ้งกับท้องถิ่น ไวน์ของที่นี่ได้รับการยอมรับตั้งแต่ช่วงแรก เมื่อบาทหลวงชาวฝรั่งเศสเปรียบเทียบไวน์ของชิชิบุกับไวน์บอร์กโดซ์ ผู้มาเยือนสามารถเพลิดเพลินกับการชิมไวน์และเรียนรู้กระบวนการผลิตไวน์ได้ที่สถานที่ผลิตโดยตรง

อุทยานแห่งชาติมุซาชิ เคียวริว เป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของญี่ปุ่นที่พัฒนาในฐานะโครงการเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปีสมัยเมจิ ครอบคลุมพื้นที่เนินเขากว้างใหญ่ขนาด 304 เฮกตาร์ ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างเมืองนามางาวะในเขตฮิกิ และยัยในเมืองคุมางายะ จังหวัดไซตามะ อุทยานแห่งนี้มีสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่หลากหลาย เช่น ป่าไม้ สระน้ำ พื้นที่ชุ่มน้ำ และทุ่งหญ้า ซึ่งเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของพืชและสัตว์ที่มีคุณค่าอย่างมาก นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ที่ผู้มาเยือนจากเขตมหานครโตเกียวสามารถสัมผัสและชื่นชมกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิด

เปิดให้บริการอีกครั้งในวันที่ 30 พฤษภาคม 2025: จุดพักรถโอกาวะมาจิกำลังได้รับการปรับปรุงใหม่ให้เป็นศูนย์กลางที่มีชีวิตชีวา สำหรับการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและการฟื้นฟูชุมชน โดยมีแนวคิดหลักคือ “กระดาษวาชิทำเองและการใช้วิถีชีวิตแบบออร์แกนิก” ที่นี่คุณสามารถสนุกกับการลองทำกระดาษวาชิแบบดั้งเดิม ชมนิทรรศการที่น่าสนใจ เลือกซื้อผลิตภัณฑ์กระดาษวาชิและของฝากท้องถิ่นมากมาย ภายในยังมีตลาดเกษตรกรที่จำหน่ายผักผลไม้สดจากชุมชน ร้านอาหารบรรยากาศเป็นกันเอง และสวนสำหรับเด็ก ๆ ได้เล่นสนุกและเรียนรู้ไปพร้อมกัน

เปิดให้บริการอีกครั้งในปี 2021 ด้วยแนวคิด "โลกที่โอบล้อมด้วยความสุขที่ทำให้หัวใจอบอุ่น" ภูมิทัศน์เมืองที่ชวนให้คิดถึงสมัยก่อนนั้นจำลองออกมาใหม่ด้วยคุณภาพที่เต็มเปี่ยม และคุณจะรู้สึกราวกับว่าได้ถูกดึงดูดเข้าสู่โลกนั้นจากการสัมผัสกับผู้คนในสมัยนั้น ประสบการณ์การกินที่ชวนให้นึกถึงอดีต และการแสดงสดที่เต็มไปด้วยความเป็นมนุษย์ที่ไม่อาจคาดเดาได้ นอกจากนี้ยังมีการแนะนำเครื่องเล่นรูปแบบใหม่ เพื่อให้คุณได้เพลิดเพลินไปกับความรู้สึกอันน่าตื่นเต้น

คุณภาพของน้ำพุเป็นน้ำพุร้อน์ธรรมดาที่มีอัลคาไลน์ไม่มีเกลือซึ่งหาได้ยากในคันโต สีเป็นสีน้ำตาลซึ่งเปล่งประกายเป็นสีทองเมื่อโดนแสง เมื่อแช่น้ำพุร้อนจะทำให้ผิวเรียบเนียน คุณสามารถใช้เวลาผ่อนคลายในอาคารขนาดใหญ่

ที่สวนอุเมะเฮียคุคะเอ็นเริ่มการปลูกต้นบ๊วยเริ่มตั้งแต่ปีโชวะที่ 61 คุณสามารถเพลิดเพลินกับดอกบ๋วยประมาณ 170 สายพันธุ์ เช่น โทจิและคันโคไบที่บานเร็ว ดอกไม้แห่งพระจันทร์ 3 ชนิด (มังสึกิ มะโกโตะซึกิ โซเมโนะสึกิ) ที่มีชื่อเสียง ดอกไม้และของหายาก เป็นต้น ตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์ต้นดอกบ๊วยประมาณ 470 ต้นจะบานสะพรั่งและกลิ่นของดอกบ๋วยหอมกรุ่นจะกระจายไปถึงยอดเขา

นี่เป็นโครงการร่วมกันระหว่าง KADOKAWA และเมืองโทโคโระซาวะโดยเป็นสถานที่พื้นฐานของ" แนวคิด COOL JAPAN FOREST " ที่สร้างวัฒนธรรมและอุตสาหกรรมที่ล้ำสมัยจากพื้นที่สีเขียวที่อุดมสมบูรณ์และเผยแพร่ไปทั่วโลก ที่นี่ประกอบด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น ศูนย์วัฒนธรรมที่รวมห้องสมุด หอศิลป์ พิพิธภัณฑ์ และพิพิธภัณฑ์อะนิเมะเข้าไว้ด้วยกัน, ห้องโถงอเนกประสงค์ที่คุณสามารถเพลิดเพลินกับวัฒนธรรมป๊อปของญี่ปุ่น, "โรงแรมอะนิเมะ EJ" ที่คุณสามารถเข้าพักอยู่ในเรื่องราวที่คุณชื่นชอบ, การผลิตหนังสือ, โรงงานจัดจำหน่าย, สำนักงาน, ร้านค้า, ร้านอาหาร และร้านหนังสือแนวประสบการณ์ และศาลเจ้า เป็นต้น

ศาลเจ้าอิซุโมะอิวะอิซึ่งเป็นเวทีของยาบุซาเมะมีอาคารศาลเจ้าที่เก่าแก่ที่สุดในจังหวัดและถูกกำหนดให้เป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญของชาติพร้อมกับป้ายชื่ออาคารทั้งสองด้าน ตามคำบอกเล่าของชาวบ้านกล่าวกันว่ามินาโมโตะ โนะ โยชิอิเอะไปเยี่ยมชมพื้นที่เพื่อขอบคุณสำหรับชัยชนะสงครามในปี 1063 เมื่อเขาพิชิตโอช และได้สร้างศาลเจ้าฮาจิมันและอุทิศยาบุซะเมะซึ่งกลายเป็นจุดกำเนิดของงาน ทุกฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วงของทุกปีคนหนุ่มจะขี่ม้าและแสดงศิลปะการต่อสู้ที่สวยงามโดยการยิงธนูจากบนหลังม้าที่วิ่งอยู่

ตั้งอยู่ในเนินเขานากาโอเนะซึ่งอุดมไปด้วยธรรมชาติและเลาะเลียบไปตามเมืองจิจิบุและเมืองโอกาโนะ พื้นที่ขนาดใหญ่ประมาณ 375ha แบ่งออกเป็นโซนป่ากีฬา โซนป่าดนตรีอและโซนป่าวัฒนธรรม แต่ละแห่งเชื่อมต่อกันด้วย "ถนนลอยฟ้า" ยาวประมาณ 3 กม. นอกจากห้องแสดงดนตรีกับเวทีกลางแจ้ง น้ำพุแห่งมิวส์ และสวนขนาดใหญ่แล้วยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกด้านกีฬาอีกด้วย จึงสามารถเพลิดเพลินสิ่งเหล่านี้ได้ขณะอยู่ท่ามกลางธรรมชาติของฤดูกาลทั้งสี่

สวนสนุกธีมโชยุของเมืองคาวาจิมะจังหวัดไซตามะ「คินบุเอะ โชยุ พาร์ค」 คุณสามารถสัมผัสประสบการณ์ "กิน" "เรียนรู้" " ซื้อ" "เล่น" ได้ที่ "คิบุเอะ โชยุ ระคุกักโค" กับการทัวร์ชมโรงงานกลั่นโชยุ และที่ "ร้านอาหารโชยุโซ" ดำเนินงานโดยฟุเอะคิโชยุซึ่งเป็นโรงกลั่นโชยุที่เก่าแก่ก่อตั้งในปีแรกของปีคันเซ (กรุณาเช็ครายละเอียดของสถานที่ได้จาก URL ด้านล่าง)

"คิยัซเซะ ฮันยู" เป็นชื่อเล่นของสวนเกษตรและป่าไม้มิตะกะยะในเมืองฮันยู ภายในสวนมีพื้นที่ประมาณ 3.6 เฮกตาร์มี "ชิคิโนะโอคะ" ที่เต็มไปด้วยดอกไม้ มีอาคารจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่มีผักท้องถิ่นที่เก็บได้ในตอนเช้า โรงงานเบียร์ที่ผลิตเบียร์ท้องถิ่น "เบียร์โคะบุชิฮานะ" ของฮันยู และมีร้านอาหารที่คุณสามารถลิ้มรสเส้นอุด้งทำมือแสนอร่อย มีอุปกรณ์การเล่นสำหรับเด็ก ๆ ให้เล่นในสวนสาธารณะและมีการจัดกิจกรรมและประสบการณ์การเก็บเกี่ยวผักตลอดทั้งปี

คุณสามารถเที่ยวชมโรงงานไวน์และไร่องุ่นได้ มีให้ชิมฟรีที่สำนักงานขายตรงที่ติดกับอาคาร สามารถซื้อไวน์และรับประทานอาหารที่ร้านอาหาร (ตามวันทำการที่กำหนด) ที่จัดให้บริการโดยตรง

เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เน้นเรื่องชาเป็นหลัก คุณสามารถเรียนรู้วัสดุต่างเกี่ยวกับ ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของชา เช่น ชาเซยามะ ตลอดจนธรรมชาติและประวัติศาสตร์ของเมืองอิริมะ สวนขนาดใหญ่มีห้องชงชา สระน้ำ พื้นที่ป่าไม้ ร้านอาหาร และสนามหญ้า เป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การพักผ่อนอีกด้วย

ก่อตั้งขึ้นในปี 1864 เป็นร้านขายและผลิตขนมหวานและลูกอมที่มีมายาวนาน “ จิจิบุิอะเมะ” นั้นทำขึ้นอย่างพิถีพิถันโดยช่างฝีมือที่ใส่ใจในเรื่องรสชาติโดยคงรสของวัตถุดิบไว้อย่างนั้น โดยให้คุณค่ากับรสชาติของวัตถุดิบที่คัดสรรมาอย่างดีและใช้เทคนิคแบบดั้งเดิม ผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ไม่ใช้สารปรุงแต่งดังนั้นทุกคนตั้งแต่เด็กจนถึงผู้สูงอายุสามารถรับประทานได้อย่างมั่นใจ

AMIGO! อ่านว่า" อามีโก้ " เป็นคำภาษาสเปนที่แปลว่า "เพื่อน" หรือ "เพื่อนฝูง" ห้องศิลปะสร้างวัฒนธรรมเมืองอิริมะได้ตั้งชื่อสถานที่ว่า "AMIGO!" ชื่อนี้เป็นผลมาจากการรวมความปรารถนาและความคิดที่ว่า "ฉันอยากทำกิจกรรมประเภทนี้" และ "ฉันอยากทำสถานที่แบบนี้" ตามที่ระบุไว้ด้านล่าง และมันมาจากความคิดที่ว่า ต่อจากนี้มาส่ง "!" กันเถอะ! เพิ่มเพื่อนกันเถอะ! แสดงความกระตือรือร้นที่จะทำให้ดีที่สุดโดยไม่ลืมท่าทางที่จะทำงานหนักไม่ว่าเมื่อไหร่ เรากำลังทำประสบการณ์ด้านการย้อมสีและสิ่งทอ

คุโระยุที่หายากในคันโตที่ไหลไปตามถนนบายพาสทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 เรามีบ่อน้ำพุร้อนที่ไหลจากแหล่งน้ำพุโดยตรง เช่น บ่อน้ำวน ซาวน่าเกลือ ซาวน่าอุณหภูมิสูง บ่อยา และบ่ออุทะเสะยุ

นอกจากน้ำพุร้อนธรรมชาติที่มีฤทธิ์เป็นด่างอ่อน ๆ ซึ่งกล่าวกันว่ามีผลลัพท์คล้ายกับ "บิจินโนะยุ" แล้วยังมี ่" ออนโกโบ" บ่อหินขนาดใหญ่ที่สามารถเพลิดเพลินได้ทั้งชายและหญิง ! บุฟเฟ่ต์ชิคิไซที่ "โคะฮังชะเรียว" คุณสามารถเพลิดเพลินกับเมนูที่ใช้ผักท้องถิ่นที่อุดมสมบูรณ์ตามฤดูกาลทั้งสี่ในขณะที่ชมวิวทิวทัศน์ * สถานอำนวยความสะดวกนี้สำหรับนักเรียนระดับประถมศึกษาขึ้นไป ไม่อนุญาตให้เด็กก่อนวัยเรียนเข้า

โรงหมักสาเกแห่งเดียวในคาวาโกเอะเมืองแห่งโกดัง แม้จะไม่สามารถเข้าชมโรงหมักสาเกได้ แต่คุณสามารถเยี่ยมชมมัตสึโมโตะโชยุที่อยู่ติดกันซึ่งก่อตั้งเมื่อ 200 ปีก่อนได้ฟรี โรงหมักสาเกที่ตั้งอยู่ใจกลางสถานที่ท่องเที่ยวคาวาโกเอะโดยเดินเพียง 1 นาทีไปยังระฆังแห่งเวลา ขอให้ลองเดินทางมากันให้ได้

จำหน่ายของที่ระลึกมากกว่า 450 ชนิดที่เป็นตัวแทนของไซตามะ นอกจากขนมคุซากะเซมเบ้แบบดั้งเดิม, ขนมมันฝรั่งโคเอโดะคาวาโกเอะ, ชาซายามะ และเหล้าสาเกท้องถิ่นแล้ว ยังจำหน่ายสินค้ายอดนิยมของจังหวัด เช่นงานฝีมือแบบดั้งเดิมและสินค้า "โคบะทง" มาสคอตประจำจังหวัดไซตามะ เป็นต้น
ไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้ของคุณ หากคุณยังคงเรียกดู แสดงว่าคุณยอมรับการใช้คุกกี้บนเว็บไซต์นี้ ยอมรับ
CONTACT