สิ่งที่ต้องทำ
ผลการค้นหา305

น้ำแข็งย้อยที่เกิดขึ้นราวกับถูกประดิษฐ์นั้นมาจากน้ำในลำธารที่ไหลลงมาตามทางลาดของภูเขา สูงประมาณ 30 เมตรและกว้าง 200 เมตร “แท่งน้ำแข็งย้อยอาชิงาคุโบะ” อันงดงามนี้เป็นหนึ่งในน้ำแข็งย้อยสามแหางหลักในจิจิบุ ทุกปีตั้งแต่ต้นเดือนมกราคมถึงปลายเดือนกุมภาพันธ์ คุณสามารถดื่มด่ำไปกับพื้นที่แห่งจินตนาการที่สร้างสรรค์โดยธรรมชาติและคนในท้องถิ่น

สุสานร้อยถ้ำโยชิมิเป็นหลุมฝังศพแบบแนวนอนที่สร้างขึ้นในตอนท้ายของยุคโคะฟุน (ปลายศตวรรษที่ 6 ถึง 7) และได้รับการกำหนดให้เป็นโบราณสถานแห่งชาติในปีไทโชที่ 12 เป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่เป็นตัวแทนของเมืองโยชิมิและปัจจุบันมีหลุมแนวนอน 219 หลุมที่สามารถยืนยันได้ หลุมด้านข้างแต่ละหลุมประกอบด้วยสองส่วนคือห้องฝังศพและเส้นทางเดิน ในส่วนด้านหนึ่งนั้นมีมอสเรืองแสงได้เติบโตตามธรรมชาติเป็นอนุสาวรีย์ธรรมชาติ

“หุบเขารันซัน” เป็นหนึ่งในจุดชมวิวที่เป็นตัวแทนของจังหวัดไซตามะ โดดเด่นที่ทางเดินหินอิวาดะทามิ สายน้ำใสของแม่น้ำสึคิคาวะ และสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ของต้นไม้โดยรอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่เรียกว่าโฮโซฮาระซึ่งทอดยาวออกมาจากภูเขาโอฮิระเส้นทางแม่น้ำขนาดกว้างและหักเป็นมุม 180 องศานั้นสร้างภูมิประเทศในลักษณะเหมือนคาบสมุทรที่เป็นเอกลักษณ์ คุณสามารถชมทิวทัศน์ที่สวยงามของหุบเขาและป่าสนแดงโดยรอบได้ ทิวทัศน์แห่งนี้คล้ายคลึงกับ “อาราชิยามะ” ในเกียวโตมาก เมื่อศาสตราจารย์ ดร.เซโระคุ ฮอนดะ ผู้ที่ได้รับปริญญาเอกด้านป่าไม้คนแรกของญี่ปุ่นเมื่อมาเยือนที่นี่และได้พูดขึ้นว่า “นี่คืออาราชิยามะแห่งมุซาชิ โนะ คุนิ” จึงทำให้เป็นที่มาของชื่อเมืองว่า “รันซัน” ซึ่งเป็นอีกวิธีหนึ่งในการออกเสียงตัวอักษรคันจิของคำว่าอาราชิยามะ ในช่วงต้นฤดูร้อนคุณสามารถเพลิดเพลินกับทัศนียภาพที่มีทั้งต้นไม้เขียวขจี เสียงแม่น้ำไหล และเสียงนกร้องเจื้อยแจ้ว แทบไม่น่าเชื่อเลยว่าอยู่ห่างจากใจกลางเมืองแค่หนึ่งชั่วโมง ในฤดูใบไม้ร่วงมาเพลิดเพลินกับสีสันที่สะท้อนบนผิวน้ำและต้นเมเปิลสีแดงเพลิงอันสวยงาม *ช่วงเวลาชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ดีที่สุด: กลางเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนธันวาคม

คินชะคุดะเกิดจากการคดเคี้ยวของแม่น้ำโคมะที่ไหลผ่านเมืองฮิดากะและเนื่องจากรูปร่างของมันคล้ายคินชะคุจึงถูกเรียกว่าคินชะคุดะ บนพื้นที่ราบที่ล้อมรอบด้วยแม่น้ำที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 500 เมตรและมีพื้นที่ประมาณ 22 เฮกตาร์ ดอกไม้ เช่น ดอกนาโนะฮาะนะและดอกคอสมอสที่จะบานตามฤดูกาลนั้นได้ออกดอกเบ่งบาน หนึ่งในนั้นคือพื้นที่ปลูกดอกมันจูชะเกะในฤดูใบไม้ร่วงถูกย้อมเป็นสีแดงเข้มไปทั่วพื้นที่ ซึ่งสวยงามราวกับพรมสีแดงที่กางออก

ตั้งอยู่ริมแม่น้ำนาคากาวะ ขนาดประมาณ 13,000 ตารางเมตร ความแตกต่างระหว่างสีชมพูของต้นดอกท้อประมาณ 120 ต้นและสีเหลืองของดอกนาโนะฮานะนั้นสวยงามในช่วงเดือนมีนาคมถึงเมษายนของทุกปี นอกจากนั้นในฤดูใบไม้ร่วงคุณสามารถเพลิดเพลินกับดอกพลับพลึงสีแดงและคอสมอส กิจกรรมพิเศษสำหรับเทศกาลฮานะโมโมะจัดขึ้นในช่วงปลายเดือนมีนาคมและจะมีนักท่องเที่ยวมากันเป็นจำนวนมาก

ที่นี่เป็นสถานที่เที่ยวชมโรงงานที่ไม่เหมือนใครซึ่งคุณสามารถดู รู้ และเรียนรู้เกี่ยวกับโลกแห่งขนมหวานได้อย่างสนุกสนานไปพร้อมกัน นอกจากจะได้ชมกระบวนการผลิตของ Pocky และ Pretz อย่างใกล้ชิดแล้วคุณยังสามารถเพลิดเพลินกับการเรียนรู้เกี่ยวกับช็อกโกแลต ทัวร์ตอบคำถาม ชมโซนพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดง "ของเล่น" กว่า 1,500 ชิ้น และการทำขนมแฮนด์เมดแบบออริจินัล (มีค่าบริการ) ซึ่งเป็นสถานที่ที่ไม่เพียงแค่เด็กๆเท่านั้นแต่ผู้ใหญ่ก็สามารถเพลิดเพลินกับประสบการณ์มากมายได้

โอเคะกาวะ-ชุคุยังให้ความรู้สึกถึงภาพลักษณ์ของยุคเมืองพักแรมแม้ในปัจจุบัน โดยมีอาคารที่ชวนให้นึกถึงเมืองพักแรมนากาเซนโดะในยุคสมัยนั้นไม่ว่าจะเป็น "ทาเคะมุระเรียวกัง(ฮาทาโกะเก่า) " ซึ่งเป็นอาคารของ สมบัติทางวัฒนธรรมที่ได้รับการจดทะเบียนในระดับประเทศ หรือ "บ้านโกดังของตระกูลชิมามุระ " และ "ตระกูลโคบายาชิ" นอกจากนี้ “ดอกคำฝอย” สินค้าพิเศษของโอเคะกาวะยังนำความมั่งคั่งและวัฒนธรรมมากมายมาสู่ โอเคะกาวะ-ชุคและคุณยังสามารถชมโคมไฟหินที่พ่อค้าดอกคำฝอยบริจาคำไว้ได้ที่ศาลเจ้าโอเคะกาวะอินาริ

เมียวอนซาวะผุดขึ้นในพื้นที่ป่าบนทางลาดชันริมแม่น้ำคุโระเมะทางตอนใต้ของเมือง เป็นสายธารใสที่ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน “น้ำที่ดีที่สุด 100 แห่งของเฮเซ” ภายใต้สังกัดของกระทรวงสิ่งแวดล้อม การไหลลงมาสู่แม่น้ำคุโระเมะเป็นระยะทางประมาณ 100 เมตร สามารถพบสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในน้ำสะอาดเท่านั้นและพืชมีค่าหลายชนิดซึ่งเติบโตตามธรรมชาติ

ในทุ่งคอสมอสขนาดความกว้างประมาณ 8.8 เฮกแตร์และมีต้นคอสมอสกว่า 12 ล้านต้นอยู่ริมฝั่งแม่น้ำอาราคาวะคุณสามารถมองเห็นเทือกเขาจิจิบุและและภูเขาไฟฟูจิจากทุ่งดอกไม้ที่มีคอสมอสกระจายไปทั่วพื้นที่ เวลาที่ดีที่สุดในการชมคอสมอสคือกลางเดือนตุลาคม แต่ดอกป๊อปปี้ก็บานในเดือนพฤษภาคม เทศกาลคอสมอสในช่วงกลางเดือนตุลาคมนอกจากจะมีงานบนเวทีแล้วยังมีบูทร้านค้าและประสบการณ์การเก็บดอกคอสมอสอีกด้วย

เดิมทีทุ่งดอกป๊อปปี้ปลูกขึ้นเพื่อรณรงค์ป้องกันการทิ้งขยะอย่างผิดกฎหมาย ด้วยขนาดประมาณ 12.5ha นับว่าเป็นขนาดที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ในงานเทศกาลดอกป๊อปปี้ช่วงกลางเดือนพฤษภาคมจะมีบูทร้านค้า การขายสินค้าเกษตรและประสบการณ์การเก็บดอกป็อปปี้ ภูเขาไฟฟูจิที่มองเห็นได้จากใต้สะพานโอนาริในอาราคาวะซึ่งเป็นที่ตั้งของทุ่งดอกไม้ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน "100 ทัศนียภาพสำหรับชมภูเขาไฟฟูจิที่ดีที่สุด" และทิวทัศน์ที่มีดอกป๊อปปี้สีแดง ชมพู และส้มบานสะพรั่งเป็นสิ่งที่สวยงามอย่างมาก

เหมือนที่ "เพลงเก็บชาสะมะยะ" ได้ร้องไว้ว่า "มีสีแบบชาชิซุโอกะ กลิ่นหอมแบบชาอุจิ แต่รสชาตินั้นไม่มีอะไรเทียบเท่ากับชาสะยะมะ" "ชาสะยะมะ" ถือเป็น "หนี่งในสามของชาที่ดีที่สุดของญี่ปุ่น" เช่นเดียวกับ "ชาชิซุโอกะ" และ "ชาอุจิ" ที่มิยาโนะเอ็นมีการจัดเตรียมประสบการร์ที่จะให้คุณจะได้สัมผัสกับ "ชาซะยะมะ" อย่างใกล้ชิด ในประสบการณ์การเก็บชาคุณสามารถสวมผ้ากันเปื้อนสีแดง (เช่าแบบเสียเงิน) และดื่มชาที่เก็บมา และยังสามรถลิ้มลอง "เทมปุระใบชา" รวมถึงสามารถเพลิดเพลินกับศิลปะชามัทจะอย่าง "ชาซะยะมะ" และ "วัฒนธรรมการชงชาของญี่ปุ่น" ได้

สวนสนุกในธีมของหมักที่ดำเนินการโดย Pickles Corporation ผู้ผลิตผักดอง มีร้านซีเล็คท์ช็อปจำหน่ายอาหารหมัก คาเฟ่ ร้านอาหาร และสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับสัมผัสประสบการณ์ คุณสามารถรับประทานอาหารที่ทำจากมอลต์ข้าวและแล็กติกแอซิดแบคทีเรีย รวมถึงสามารถซื้อของดองและอาหารหมักที่คัดสรรมาอย่างดีจากทั่วประเทศ นอกจากนี้คุณยังสามารถสัมผัสประสบการณ์การหมักโดยตรง เช่น การทำกิมจิ ผักดองรำข้าว และอาหารตามฤดูกาล

สถานอำนวยความสะดวกครบวงจรที่คุณจะได้สัมผัสกับวัฒนธรรมสแกนดิเนเวีย นอกจากจะมี "ซาวน่าคลับ" ที่คุณสามารถเหมาห้องซาวน่าแบบเต็นท์สไตล์ฟินแลนด์ได้ และ "โคคโคะ บาร์บีคิว" สไตล์สแกนดิเนเวียนแล้ว คุณยังสามารถเพลิดเพลินกับการเลือกซื้ออาหารพื้นเมืองและผักได้อีกด้วย ในฤดูใบไม้ผลิของปี 2021 มีกำหนดจะเปิด "ทุ่งแกลมปิ้ง" ทั้งหมด 10 แห่งและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่คุณสามารถเพลิดเพลินได้ทั้งแบบไปเช้าเย็นกลับหรือพักค้างคืน

นี่คือเวิร์คช็อปที่สามารถสร้างสิ่งของต่างๆล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติที่คุณสามารถสร้างเรือแคนูแบบดั้งเดิมโดยใช้ไม้นิชิคาวะในท้องถิ่นได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ยังมีบริการเรือแคนูให้เช่า ดังนั้นผู้ที่ต้องการลองพายเรือแคนูไม้ก่อนที่จะสร้างเรือ หรือผู้ที่ต้องการจะลองเล่นสนุกด้วยเรือแคนูเล็ก ๆ น้อย ๆ ก่อนก็สามารถสัมผัสประสบการณ์นี้ได้เช่นกัน

ทะเลสาบเทียมที่เลาะเลียบไปตามเขตแดนระหว่างเมืองโทโคโระซาวะและเมืองอิรุมะซึ่งตั้งอยู่ทางตอนกลางทางใต้ของจังหวัดไซตามะและสร้างเสร็จในปีโชวะที่ 9 ในฐานะถังเก็บน้ำในโตเกียวโดยมีชื่อทางการคือ" อ่างเก็บน้ำยามากุจิ " บริเวณโดยรอบคือสวนธรรมชาติประจำจังหวัดไซตามะซึ่งคุณสามารถเพลิดเพลินกับต้นซากุระ 20,000 ต้น อย่างต้นซากุระโยชิโนะและต้นซากุระป่าในฤดูใบไม้ผลิ ิใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง ต้นไม้และภูเขาไฟฟูจิที่สะท้อนบนผิวน้ำทะเลสาบ รวมถึงการดูนก ทิวทัศน์ที่สวยงามของทั้งสี่ฤดูกาลได้รับการคัดเลือกให้เป็นหนึ่งใน "100 ธรรมชาติที่สวยงามของไซตามะ" และ "เขื่อนทะเลสาบที่สวยงาม 100 แห่ง"

ในสวนสาธารณะที่มีสุสานขนาดใหญ่ 9 แห่งนอกเหนือไปจาก "สุสานอินาริยามะ" ที่ขุดพบดาบเหล็กจารึกทองซึ่งเป็นสมบัติของชาติ ส่วนของ "สุสานมารุฮาคายามะ" ซึ่งถือเป็นสุสานทรงกลมที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นก็ได้กลายเป็นจุดชมซากุระที่ดีที่สุดในสวนสาธารณะ นอกจากนี้ยังมีการกล่าวกันว่าซะคิตามะเมืองเกียวดะซึ่งเป็นที่ตั้งของสวนนี้เป็นสถานที่ที่ชื่อ "ไซตามะ" ถือกำเนิดขึ้นและมีอนุสาวรีย์ต้นกำเนิดชื่อของจังหวัดไซตามะอยู่ในสวนสาธารณะ

แม่น้ำชินงาชิซึ่งไหลอยู่ด้านหลังศาลเจ้าคาวาโกเอะฮิคาวะนั้นเป็นจุดชมดอกไม้ที่มีชื่อเสียงซึ่งเมื่อถึงฤดูใบไม้ผลิจะมีทัศนียภาพอันงดงามของดอกซากุระที่เบ่งบานจากต้นซากุระที่ตั้งเรียงรายยาวประมาณ 500 เมตรซึ่งเลียบไปตามแม่น้ำ ในงาน “โคะเอโดะ คาวาโกเอะ ฮารุโนะฟุนะยุ” ซึ่งจัดขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์ของช่วงต้นเดือนเมษายน จะมีงานประเพณีที่คุณสามารถเพลิดเพลินกับการชมดอกซากุระบนเรือญี่ปุ่นและชมอุโมงค์ที่เกิดจากต้นซากุระบานสะพรั่งจากแม่น้ำ อีกทั้งยังสามารถชมทิวทัศน์อันงดงามของแพดอกไม้ที่กลีบของดอกซากุระไหลปกคลุมพื้นผิวน้ำทั้งหมด

ระคันเป็นพระอรหันต์ชั้นสูงและรูปปั้นพระอรหันต์มากกว่า 500 องค์ ของวัดคิตะ-อินซึ่งเป็นหนึ่งในสามพระอรหันต์หลักของญี่ปุ่นใช้เวลากว่า 50 ปีในการทำให้เสร็จสมบูรณ์ ซึ่งประกอบไปด้วยพระพุทธรูปหินประมาณ 538 องค์ ซึ่งแต่ละองค์แสดงลักษณะสีหน้าที่แตกต่างกันไป ตั้งแต่อารมณ์และความโศกเศร้า การเล่าเรื่องลึกลับ การต้มน้ำบนชิจิรินหรืออยู่กับสัตว์ นอกจากนี้ยังมีตำนานว่าเมื่อคุณลูบบนศีรษะของระคันในเวลาเที่ยงคืนจะมีเพียงสิ่งเดียวที่อบอุ่นซึ่งคล้ายกับใบหน้าของพ่อแม่ที่เสียชีวิตไปแล้ว

สวนแห่งนี้สร้างขึ้นบนที่ตั้งของปราสาทอิวาสึคิ และเป็นสถานที่ยอดนิยมในการพักผ่อนเพราะมีธรรมชาติมากมาย เส้นทางเดินเล่น และสนามหญ้า รวมถึงลานกว้างหลายแห่ง ในสวนสาธารณะมีสนามเทนนิส สนามเบสบอล ลานกว้าแสนซนที่มีอุปกรณ์ของเล่นติดตั้งไว้ ลานปิกนิกที่มีน้ำพุ บ่อน้ำอายะเมะอิเคะที่มีสะพานแปดเหลี่ยมทาสีแดงผาดผ่าน รวมถึงจัดแสดงรถไฟสายโรแมนติก "Kinu-go" ที่วิ่งบนรถไฟโทบุไว้อีกด้วย ที่นี่เป็นสถานที่ที่ผู้คนหลากหลายสามารถมาเที่ยวสนุกให้เพลิดเพลินได้ นอกจากนั้นยังเป็นที่รู้จักในฐานะสถานที่ที่มีชื่อเสียงสำหรับการชมดอกซากุระ มีดอกซากุระประมาณ 600 ดอกบานในฤดูใบไม้ผลิและมีการจัดงานรื่นเริงที่มีชีวิตชีวา

ทุ่งลาเวนเดอร์ Sennen no Sono มีต้นลาเวนเดอร์ประมาณ 22,000 ต้นในพื้นที่ประมาณ 6.5 เฮกตาร์ และมีลาเวนเดอร์มากกว่า 10 สายพันธุ์ เช่น กรอสโซ่, ฮิดโคท, และเอวอนวิว (มี 16 สายพันธุ์ในปี 2023) ในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม คุณจะได้ชื่นชมดอกป๊อปปี้สีแดง ชมพู และขาว และดอกลาเวนเดอร์ที่บานเร็ว ในช่วงกลางเดือนมิถุนายนพื้นที่ที่พื้นผิวทั้งหมดจะถูกย้อมด้วยสีข้าวสาลี "นูริน 61" และในปลายเดือนมิถุนายนยังสามารถชมการเก็บเกี่ยวข้าวสาลีได้อีกด้วย ในทุกปีจะมีเทศกาลดอกลาเวนเดอร์รันซังโดยจัดขึ้นตั้งแต่ต้นถึงปลายเดือนมิถุนายน *คุณไม่สามารถเข้าไปในทุ่งได้หลังจากเทศกาลลาเวนเดอร์รันซันสิ้นสุดลง เนื่องจากจะมีการเก็บเกี่ยว

หมู่บ้านใหม่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในธีม "เกษตร" โรงงานแห่งนี้มีร้านขายผลิตภัณฑ์จากฟาร์มโดยตรง "Mori no Ichiba Yui" ซึ่งขายผักสดที่ทำโดยเกษตรกรในท้องถิ่นและหมู่บ้านใหม่ทุกวัน และมี "Mori no Cafe" ที่คุณสามารถทานอาหารมื้อเบา ๆ ได้ นอกจากนี้ที่ "บ้านเกษตร" ซึ่งมีโครงการเชิงปฏิบัติ การบรรยาย และสิ่งอำนวยความสะดวกให้เช่าในธีมการเกษตรและอาหารก็มีสวนสมุนไพรประมาณ 100 ชนิด ทั้งยังสามารถสัมผัสประสบการณ์เก็บเกี่ยวลาเวนเดอร์และมินต์ได้อีกด้วย ข้าวที่ผลิตเองก็เป็นที่นิยมเช่นกัน

จากจุดชมวิวที่ระดับความสูงประมาณ 370 เมตร คุณสามารถมองเห็นเมืองโยริอิ และเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ยามค่ำคืนของเมืองที่ส่องประกายระยิบระยับ คุณยังสามารถสังเกตการอพยพย้ายถิ่นของเหยี่ยวในเดือนกันยายนได้อีกด้วย

"ซากุระเอโดะฮิกังที่ปราสาทฮาจิกาตะ" เป็นอนุสาวรีย์ธรรมชาติของเมืองที่อยู่ในอุทยานปราสาทฮาจิกาตะ คาดว่ามีอายุมากกว่า 150 ปี และประมาณปลายเดือนมีนาคมของทุกปี ดอกซากุระจะบานสะพรั่งไปทั่วจากกิ่งก้านที่แผ่กว้างราวกับร่ม ในช่วงที่ซากุระบานจะมีการไลท์อัพอีกด้วย

ซากปรักหักพัง "ยุทธการคานางาวะ" สนามรบที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคคันโต การต่อสู้ระหว่างคาซุมาสุ ทาคิกาวะเจ้าแห่งอุเอโนะ ฮาจิกาตะ และโฮโจเจ้าแห่งมุซาชิ ฮาจิกาตะ แลนาโอะ โฮโจเจ้าแห่งโอดาวาระ เกิดขึ้นในทั้งสองวันของวันที่ 18 และ 19 มิถุนายน (ตามปฏิทินจันทรคติ) ปี 1582 โดยมีสถานที่เป็นแม่น้ำคันนะบริเวณชายแดนระหว่างมุซาชิ (ไซตามะ และบางส่วนของโตเกียวกับคานางาวะ) และอุเอโนะ (จังหวัดกุมมะ) นอกจากนี้ ยังเป็นที่รู้จักกันในนาม "การต่อสู้ของคานาคุโบะฮะระ" การสู้รบที่ดุเดือดได้เกิดขึ้นรอบๆ เมืองคามิซาโตะ โออาซะ คานาคุโบะ, บิซะโดะ และบริเวณโดยรอบ
ไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้ของคุณ หากคุณยังคงเรียกดู แสดงว่าคุณยอมรับการใช้คุกกี้บนเว็บไซต์นี้ ยอมรับ
CONTACT