สิ่งที่ต้องทำ

  • พื้นที่

  • พื้นที่

แท่งน้ำแข็งย้อยอาชิกาคุโบะ
แท่งน้ำแข็งย้อยอาชิกาคุโบะ

น้ำแข็งย้อยที่เกิดขึ้นราวกับถูกประดิษฐ์นั้นมาจากน้ำในลำธารที่ไหลลงมาตามทางลาดของภูเขา สูงประมาณ 30 เมตรและกว้าง 200 เมตร “แท่งน้ำแข็งย้อยอาชิงาคุโบะ” อันงดงามนี้เป็นหนึ่งในน้ำแข็งย้อยสามแหางหลักในจิจิบุ ทุกปีตั้งแต่ต้นเดือนมกราคมถึงปลายเดือนกุมภาพันธ์ คุณสามารถดื่มด่ำไปกับพื้นที่แห่งจินตนาการที่สร้างสรรค์โดยธรรมชาติและคนในท้องถิ่น

สุสานร้อยถ้ำโยชิมิ
สุสานร้อยถ้ำโยชิมิ

สุสานร้อยถ้ำโยชิมิเป็นหลุมฝังศพแบบแนวนอนที่สร้างขึ้นในตอนท้ายของยุคโคะฟุน (ปลายศตวรรษที่ 6 ถึง 7) และได้รับการกำหนดให้เป็นโบราณสถานแห่งชาติในปีไทโชที่ 12 เป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่เป็นตัวแทนของเมืองโยชิมิและปัจจุบันมีหลุมแนวนอน 219 หลุมที่สามารถยืนยันได้ หลุมด้านข้างแต่ละหลุมประกอบด้วยสองส่วนคือห้องฝังศพและเส้นทางเดิน ในส่วนด้านหนึ่งนั้นมีมอสเรืองแสงได้เติบโตตามธรรมชาติเป็นอนุสาวรีย์ธรรมชาติ

หุบเขารันซัน
หุบเขารันซัน

“หุบเขารันซัน” เป็นหนึ่งในจุดชมวิวที่เป็นตัวแทนของจังหวัดไซตามะ โดดเด่นที่ทางเดินหินอิวาดะทามิ สายน้ำใสของแม่น้ำสึคิคาวะ และสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ของต้นไม้โดยรอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่เรียกว่าโฮโซฮาระซึ่งทอดยาวออกมาจากภูเขาโอฮิระเส้นทางแม่น้ำขนาดกว้างและหักเป็นมุม 180 องศานั้นสร้างภูมิประเทศในลักษณะเหมือนคาบสมุทรที่เป็นเอกลักษณ์ คุณสามารถชมทิวทัศน์ที่สวยงามของหุบเขาและป่าสนแดงโดยรอบได้ ทิวทัศน์แห่งนี้คล้ายคลึงกับ “อาราชิยามะ” ในเกียวโตมาก เมื่อศาสตราจารย์ ดร.เซโระคุ ฮอนดะ ผู้ที่ได้รับปริญญาเอกด้านป่าไม้คนแรกของญี่ปุ่นเมื่อมาเยือนที่นี่และได้พูดขึ้นว่า “นี่คืออาราชิยามะแห่งมุซาชิ โนะ คุนิ” จึงทำให้เป็นที่มาของชื่อเมืองว่า “รันซัน” ซึ่งเป็นอีกวิธีหนึ่งในการออกเสียงตัวอักษรคันจิของคำว่าอาราชิยามะ  ในช่วงต้นฤดูร้อนคุณสามารถเพลิดเพลินกับทัศนียภาพที่มีทั้งต้นไม้เขียวขจี เสียงแม่น้ำไหล และเสียงนกร้องเจื้อยแจ้ว แทบไม่น่าเชื่อเลยว่าอยู่ห่างจากใจกลางเมืองแค่หนึ่งชั่วโมง ในฤดูใบไม้ร่วงมาเพลิดเพลินกับสีสันที่สะท้อนบนผิวน้ำและต้นเมเปิลสีแดงเพลิงอันสวยงาม *ช่วงเวลาชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ดีที่สุด: กลางเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนธันวาคม

สวนคินชาคุดะ-มันจูชาเกะ
สวนคินชาคุดะ-มันจูชาเกะ

คินชะคุดะเกิดจากการคดเคี้ยวของแม่น้ำโคมะที่ไหลผ่านเมืองฮิดากะและเนื่องจากรูปร่างของมันคล้ายคินชะคุจึงถูกเรียกว่าคินชะคุดะ บนพื้นที่ราบที่ล้อมรอบด้วยแม่น้ำที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 500 เมตรและมีพื้นที่ประมาณ 22 เฮกตาร์ ดอกไม้ เช่น ดอกนาโนะฮาะนะและดอกคอสมอสที่จะบานตามฤดูกาลนั้นได้ออกดอกเบ่งบาน หนึ่งในนั้นคือพื้นที่ปลูกดอกมันจูชะเกะในฤดูใบไม้ร่วงถูกย้อมเป็นสีแดงเข้มไปทั่วพื้นที่ ซึ่งสวยงามราวกับพรมสีแดงที่กางออก

สวนดอกไม้นาคากาวะยะชิโอะ
สวนดอกไม้นาคากาวะยะชิโอะ

ตั้งอยู่ริมแม่น้ำนาคากาวะ ขนาดประมาณ 13,000 ตารางเมตร ความแตกต่างระหว่างสีชมพูของต้นดอกท้อประมาณ 120 ต้นและสีเหลืองของดอกนาโนะฮานะนั้นสวยงามในช่วงเดือนมีนาคมถึงเมษายนของทุกปี นอกจากนั้นในฤดูใบไม้ร่วงคุณสามารถเพลิดเพลินกับดอกพลับพลึงสีแดงและคอสมอส กิจกรรมพิเศษสำหรับเทศกาลฮานะโมโมะจัดขึ้นในช่วงปลายเดือนมีนาคมและจะมีนักท่องเที่ยวมากันเป็นจำนวนมาก

กูลิโกะ พาย อีสต์
กูลิโกะ พาย อีสต์

ที่นี่เป็นสถานที่เที่ยวชมโรงงานที่ไม่เหมือนใครซึ่งคุณสามารถดู รู้ และเรียนรู้เกี่ยวกับโลกแห่งขนมหวานได้อย่างสนุกสนานไปพร้อมกัน นอกจากจะได้ชมกระบวนการผลิตของ Pocky และ Pretz อย่างใกล้ชิดแล้วคุณยังสามารถเพลิดเพลินกับการเรียนรู้เกี่ยวกับช็อกโกแลต ทัวร์ตอบคำถาม ชมโซนพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดง "ของเล่น" กว่า 1,500 ชิ้น และการทำขนมแฮนด์เมดแบบออริจินัล (มีค่าบริการ) ซึ่งเป็นสถานที่ที่ไม่เพียงแค่เด็กๆเท่านั้นแต่ผู้ใหญ่ก็สามารถเพลิดเพลินกับประสบการณ์มากมายได้

เมืองพักแรมนากาเซนโดะ
เมืองพักแรมนากาเซนโดะ

โอเคะกาวะ-ชุคุยังให้ความรู้สึกถึงภาพลักษณ์ของยุคเมืองพักแรมแม้ในปัจจุบัน โดยมีอาคารที่ชวนให้นึกถึงเมืองพักแรมนากาเซนโดะในยุคสมัยนั้นไม่ว่าจะเป็น "ทาเคะมุระเรียวกัง(ฮาทาโกะเก่า) " ซึ่งเป็นอาคารของ สมบัติทางวัฒนธรรมที่ได้รับการจดทะเบียนในระดับประเทศ หรือ "บ้านโกดังของตระกูลชิมามุระ " และ "ตระกูลโคบายาชิ" นอกจากนี้ “ดอกคำฝอย” สินค้าพิเศษของโอเคะกาวะยังนำความมั่งคั่งและวัฒนธรรมมากมายมาสู่ โอเคะกาวะ-ชุคและคุณยังสามารถชมโคมไฟหินที่พ่อค้าดอกคำฝอยบริจาคำไว้ได้ที่ศาลเจ้าโอเคะกาวะอินาริ

เมียวอนซาวะ
เมียวอนซาวะ

เมียวอนซาวะผุดขึ้นในพื้นที่ป่าบนทางลาดชันริมแม่น้ำคุโระเมะทางตอนใต้ของเมือง เป็นสายธารใสที่ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน “น้ำที่ดีที่สุด 100 แห่งของเฮเซ” ภายใต้สังกัดของกระทรวงสิ่งแวดล้อม การไหลลงมาสู่แม่น้ำคุโระเมะเป็นระยะทางประมาณ 100 เมตร สามารถพบสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในน้ำสะอาดเท่านั้นและพืชมีค่าหลายชนิดซึ่งเติบโตตามธรรมชาติ

บริเวณคอสมอส อารีน่า ฟุคิอะเกะ
บริเวณคอสมอส อารีน่า ฟุคิอะเกะ

ในทุ่งคอสมอสขนาดความกว้างประมาณ 8.8 เฮกแตร์และมีต้นคอสมอสกว่า 12 ล้านต้นอยู่ริมฝั่งแม่น้ำอาราคาวะคุณสามารถมองเห็นเทือกเขาจิจิบุและและภูเขาไฟฟูจิจากทุ่งดอกไม้ที่มีคอสมอสกระจายไปทั่วพื้นที่ เวลาที่ดีที่สุดในการชมคอสมอสคือกลางเดือนตุลาคม แต่ดอกป๊อปปี้ก็บานในเดือนพฤษภาคม เทศกาลคอสมอสในช่วงกลางเดือนตุลาคมนอกจากจะมีงานบนเวทีแล้วยังมีบูทร้านค้าและประสบการณ์การเก็บดอกคอสมอสอีกด้วย

ป๊อปปี้ แฮปปี้ สแควร์
ป๊อปปี้ แฮปปี้ สแควร์

เดิมทีทุ่งดอกป๊อปปี้ปลูกขึ้นเพื่อรณรงค์ป้องกันการทิ้งขยะอย่างผิดกฎหมาย ด้วยขนาดประมาณ 12.5ha นับว่าเป็นขนาดที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ในงานเทศกาลดอกป๊อปปี้ช่วงกลางเดือนพฤษภาคมจะมีบูทร้านค้า การขายสินค้าเกษตรและประสบการณ์การเก็บดอกป็อปปี้ ภูเขาไฟฟูจิที่มองเห็นได้จากใต้สะพานโอนาริในอาราคาวะซึ่งเป็นที่ตั้งของทุ่งดอกไม้ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน "100 ทัศนียภาพสำหรับชมภูเขาไฟฟูจิที่ดีที่สุด" และทิวทัศน์ที่มีดอกป๊อปปี้สีแดง ชมพู และส้มบานสะพรั่งเป็นสิ่งที่สวยงามอย่างมาก

มิยาโนะเอ็น
มิยาโนะเอ็น

เหมือนที่ "เพลงเก็บชาสะมะยะ" ได้ร้องไว้ว่า "มีสีแบบชาชิซุโอกะ กลิ่นหอมแบบชาอุจิ แต่รสชาตินั้นไม่มีอะไรเทียบเท่ากับชาสะยะมะ" "ชาสะยะมะ" ถือเป็น "หนี่งในสามของชาที่ดีที่สุดของญี่ปุ่น" เช่นเดียวกับ "ชาชิซุโอกะ" และ "ชาอุจิ" ที่มิยาโนะเอ็นมีการจัดเตรียมประสบการร์ที่จะให้คุณจะได้สัมผัสกับ "ชาซะยะมะ" อย่างใกล้ชิด ในประสบการณ์การเก็บชาคุณสามารถสวมผ้ากันเปื้อนสีแดง (เช่าแบบเสียเงิน) และดื่มชาที่เก็บมา และยังสามรถลิ้มลอง "เทมปุระใบชา" รวมถึงสามารถเพลิดเพลินกับศิลปะชามัทจะอย่าง "ชาซะยะมะ" และ "วัฒนธรรมการชงชาของญี่ปุ่น" ได้

OH!!!~การหมัก、สุขภาพ、เวทมนต์ของอาหาร!!!~
OH!!!~การหมัก、สุขภาพ、เวทมนต์ของอาหาร!!!~

สวนสนุกในธีมของหมักที่ดำเนินการโดย Pickles Corporation ผู้ผลิตผักดอง มีร้านซีเล็คท์ช็อปจำหน่ายอาหารหมัก คาเฟ่ ร้านอาหาร และสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับสัมผัสประสบการณ์ คุณสามารถรับประทานอาหารที่ทำจากมอลต์ข้าวและแล็กติกแอซิดแบคทีเรีย รวมถึงสามารถซื้อของดองและอาหารหมักที่คัดสรรมาอย่างดีจากทั่วประเทศ นอกจากนี้คุณยังสามารถสัมผัสประสบการณ์การหมักโดยตรง เช่น การทำกิมจิ ผักดองรำข้าว และอาหารตามฤดูกาล

โนล่านะกุริ
โนล่านะกุริ

สถานอำนวยความสะดวกครบวงจรที่คุณจะได้สัมผัสกับวัฒนธรรมสแกนดิเนเวีย นอกจากจะมี "ซาวน่าคลับ" ที่คุณสามารถเหมาห้องซาวน่าแบบเต็นท์สไตล์ฟินแลนด์ได้ และ "โคคโคะ บาร์บีคิว" สไตล์สแกนดิเนเวียนแล้ว คุณยังสามารถเพลิดเพลินกับการเลือกซื้ออาหารพื้นเมืองและผักได้อีกด้วย ในฤดูใบไม้ผลิของปี 2021 มีกำหนดจะเปิด "ทุ่งแกลมปิ้ง" ทั้งหมด 10 แห่งและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่คุณสามารถเพลิดเพลินได้ทั้งแบบไปเช้าเย็นกลับหรือพักค้างคืน

นะกุริ แคนูเวิร์คช้อป
นะกุริ แคนูเวิร์คช้อป

นี่คือเวิร์คช็อปที่สามารถสร้างสิ่งของต่างๆล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติที่คุณสามารถสร้างเรือแคนูแบบดั้งเดิมโดยใช้ไม้นิชิคาวะในท้องถิ่นได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ยังมีบริการเรือแคนูให้เช่า ดังนั้นผู้ที่ต้องการลองพายเรือแคนูไม้ก่อนที่จะสร้างเรือ หรือผู้ที่ต้องการจะลองเล่นสนุกด้วยเรือแคนูเล็ก ๆ น้อย ๆ ก่อนก็สามารถสัมผัสประสบการณ์นี้ได้เช่นกัน

ทะเลสาบสะยะมะ
ทะเลสาบสะยะมะ

ทะเลสาบเทียมที่เลาะเลียบไปตามเขตแดนระหว่างเมืองโทโคโระซาวะและเมืองอิรุมะซึ่งตั้งอยู่ทางตอนกลางทางใต้ของจังหวัดไซตามะและสร้างเสร็จในปีโชวะที่ 9 ในฐานะถังเก็บน้ำในโตเกียวโดยมีชื่อทางการคือ" อ่างเก็บน้ำยามากุจิ " บริเวณโดยรอบคือสวนธรรมชาติประจำจังหวัดไซตามะซึ่งคุณสามารถเพลิดเพลินกับต้นซากุระ 20,000 ต้น อย่างต้นซากุระโยชิโนะและต้นซากุระป่าในฤดูใบไม้ผลิ ิใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง ต้นไม้และภูเขาไฟฟูจิที่สะท้อนบนผิวน้ำทะเลสาบ รวมถึงการดูนก ทิวทัศน์ที่สวยงามของทั้งสี่ฤดูกาลได้รับการคัดเลือกให้เป็นหนึ่งใน "100 ธรรมชาติที่สวยงามของไซตามะ" และ "เขื่อนทะเลสาบที่สวยงาม 100 แห่ง"

สวนสุสานโบราณสะคิตามะ
สวนสุสานโบราณสะคิตามะ

ในสวนสาธารณะที่มีสุสานขนาดใหญ่ 9 แห่งนอกเหนือไปจาก "สุสานอินาริยามะ" ที่ขุดพบดาบเหล็กจารึกทองซึ่งเป็นสมบัติของชาติ ส่วนของ "สุสานมารุฮาคายามะ" ซึ่งถือเป็นสุสานทรงกลมที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นก็ได้กลายเป็นจุดชมซากุระที่ดีที่สุดในสวนสาธารณะ นอกจากนี้ยังมีการกล่าวกันว่าซะคิตามะเมืองเกียวดะซึ่งเป็นที่ตั้งของสวนนี้เป็นสถานที่ที่ชื่อ "ไซตามะ" ถือกำเนิดขึ้นและมีอนุสาวรีย์ต้นกำเนิดชื่อของจังหวัดไซตามะอยู่ในสวนสาธารณะ

แม่น้ำชินงาชิด้านหลังศาลเจ้าคาวาโกเอะฮิคาวะ
แม่น้ำชินงาชิด้านหลังศาลเจ้าคาวาโกเอะฮิคาวะ

แม่น้ำชินงาชิซึ่งไหลอยู่ด้านหลังศาลเจ้าคาวาโกเอะฮิคาวะนั้นเป็นจุดชมดอกไม้ที่มีชื่อเสียงซึ่งเมื่อถึงฤดูใบไม้ผลิจะมีทัศนียภาพอันงดงามของดอกซากุระที่เบ่งบานจากต้นซากุระที่ตั้งเรียงรายยาวประมาณ 500 เมตรซึ่งเลียบไปตามแม่น้ำ ในงาน “โคะเอโดะ คาวาโกเอะ ฮารุโนะฟุนะยุ” ซึ่งจัดขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์ของช่วงต้นเดือนเมษายน จะมีงานประเพณีที่คุณสามารถเพลิดเพลินกับการชมดอกซากุระบนเรือญี่ปุ่นและชมอุโมงค์ที่เกิดจากต้นซากุระบานสะพรั่งจากแม่น้ำ อีกทั้งยังสามารถชมทิวทัศน์อันงดงามของแพดอกไม้ที่กลีบของดอกซากุระไหลปกคลุมพื้นผิวน้ำทั้งหมด

โกะเฮียะคุระคัน วัดคิตะอิน
โกะเฮียะคุระคัน วัดคิตะอิน

ระคันเป็นพระอรหันต์ชั้นสูงและรูปปั้นพระอรหันต์มากกว่า 500 องค์ ของวัดคิตะ-อินซึ่งเป็นหนึ่งในสามพระอรหันต์หลักของญี่ปุ่นใช้เวลากว่า 50 ปีในการทำให้เสร็จสมบูรณ์ ซึ่งประกอบไปด้วยพระพุทธรูปหินประมาณ 538 องค์ ซึ่งแต่ละองค์แสดงลักษณะสีหน้าที่แตกต่างกันไป ตั้งแต่อารมณ์และความโศกเศร้า การเล่าเรื่องลึกลับ การต้มน้ำบนชิจิรินหรืออยู่กับสัตว์ นอกจากนี้ยังมีตำนานว่าเมื่อคุณลูบบนศีรษะของระคันในเวลาเที่ยงคืนจะมีเพียงสิ่งเดียวที่อบอุ่นซึ่งคล้ายกับใบหน้าของพ่อแม่ที่เสียชีวิตไปแล้ว

สวนอิวาสึคิ โจชิ โคเอ็น
สวนอิวาสึคิ โจชิ โคเอ็น

สวนแห่งนี้สร้างขึ้นบนที่ตั้งของปราสาทอิวาสึคิ และเป็นสถานที่ยอดนิยมในการพักผ่อนเพราะมีธรรมชาติมากมาย เส้นทางเดินเล่น และสนามหญ้า รวมถึงลานกว้างหลายแห่ง ในสวนสาธารณะมีสนามเทนนิส สนามเบสบอล ลานกว้าแสนซนที่มีอุปกรณ์ของเล่นติดตั้งไว้ ลานปิกนิกที่มีน้ำพุ บ่อน้ำอายะเมะอิเคะที่มีสะพานแปดเหลี่ยมทาสีแดงผาดผ่าน รวมถึงจัดแสดงรถไฟสายโรแมนติก "Kinu-go" ที่วิ่งบนรถไฟโทบุไว้อีกด้วย ที่นี่เป็นสถานที่ที่ผู้คนหลากหลายสามารถมาเที่ยวสนุกให้เพลิดเพลินได้ นอกจากนั้นยังเป็นที่รู้จักในฐานะสถานที่ที่มีชื่อเสียงสำหรับการชมดอกซากุระ มีดอกซากุระประมาณ 600 ดอกบานในฤดูใบไม้ผลิและมีการจัดงานรื่นเริงที่มีชีวิตชีวา

ทุ่งลาเวนเดอร์ Sennen no Sono
ทุ่งลาเวนเดอร์ Sennen no Sono

ทุ่งลาเวนเดอร์ Sennen no Sono มีต้นลาเวนเดอร์ประมาณ 22,000 ต้นในพื้นที่ประมาณ 6.5 เฮกตาร์ และมีลาเวนเดอร์มากกว่า 10 สายพันธุ์ เช่น กรอสโซ่, ฮิดโคท, และเอวอนวิว (มี 16 สายพันธุ์ในปี 2023) ในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม คุณจะได้ชื่นชมดอกป๊อปปี้สีแดง ชมพู และขาว และดอกลาเวนเดอร์ที่บานเร็ว ในช่วงกลางเดือนมิถุนายนพื้นที่ที่พื้นผิวทั้งหมดจะถูกย้อมด้วยสีข้าวสาลี "นูริน 61" และในปลายเดือนมิถุนายนยังสามารถชมการเก็บเกี่ยวข้าวสาลีได้อีกด้วย ในทุกปีจะมีเทศกาลดอกลาเวนเดอร์รันซังโดยจัดขึ้นตั้งแต่ต้นถึงปลายเดือนมิถุนายน *คุณไม่สามารถเข้าไปในทุ่งได้หลังจากเทศกาลลาเวนเดอร์รันซันสิ้นสุดลง เนื่องจากจะมีการเก็บเกี่ยว

อะตะระชิมุระ(หมู่บ้านใหม่)
อะตะระชิมุระ(หมู่บ้านใหม่)

หมู่บ้านใหม่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในธีม "เกษตร" โรงงานแห่งนี้มีร้านขายผลิตภัณฑ์จากฟาร์มโดยตรง "Mori no Ichiba Yui" ซึ่งขายผักสดที่ทำโดยเกษตรกรในท้องถิ่นและหมู่บ้านใหม่ทุกวัน และมี "Mori no Cafe" ที่คุณสามารถทานอาหารมื้อเบา ๆ ได้ นอกจากนี้ที่ "บ้านเกษตร" ซึ่งมีโครงการเชิงปฏิบัติ การบรรยาย และสิ่งอำนวยความสะดวกให้เช่าในธีมการเกษตรและอาหารก็มีสวนสมุนไพรประมาณ 100 ชนิด ทั้งยังสามารถสัมผัสประสบการณ์เก็บเกี่ยวลาเวนเดอร์และมินต์ได้อีกด้วย ข้าวที่ผลิตเองก็เป็นที่นิยมเช่นกัน

จุดชมวิวจูเก็นไดระ
จุดชมวิวจูเก็นไดระ

จากจุดชมวิวที่ระดับความสูงประมาณ 370 เมตร คุณสามารถมองเห็นเมืองโยริอิ และเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ยามค่ำคืนของเมืองที่ส่องประกายระยิบระยับ คุณยังสามารถสังเกตการอพยพย้ายถิ่นของเหยี่ยวในเดือนกันยายนได้อีกด้วย

ซากุระเอโดะฮิกังที่ปราสาทฮาจิกาตะ
ซากุระเอโดะฮิกังที่ปราสาทฮาจิกาตะ

"ซากุระเอโดะฮิกังที่ปราสาทฮาจิกาตะ" เป็นอนุสาวรีย์ธรรมชาติของเมืองที่อยู่ในอุทยานปราสาทฮาจิกาตะ คาดว่ามีอายุมากกว่า 150 ปี และประมาณปลายเดือนมีนาคมของทุกปี ดอกซากุระจะบานสะพรั่งไปทั่วจากกิ่งก้านที่แผ่กว้างราวกับร่ม ในช่วงที่ซากุระบานจะมีการไลท์อัพอีกด้วย

สมรภูมิโบราณแม่น้ำคันนะ
สมรภูมิโบราณแม่น้ำคันนะ

ซากปรักหักพัง "ยุทธการคานางาวะ" สนามรบที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคคันโต การต่อสู้ระหว่างคาซุมาสุ ทาคิกาวะเจ้าแห่งอุเอโนะ ฮาจิกาตะ และโฮโจเจ้าแห่งมุซาชิ ฮาจิกาตะ แลนาโอะ โฮโจเจ้าแห่งโอดาวาระ เกิดขึ้นในทั้งสองวันของวันที่ 18 และ 19 มิถุนายน (ตามปฏิทินจันทรคติ) ปี 1582 โดยมีสถานที่เป็นแม่น้ำคันนะบริเวณชายแดนระหว่างมุซาชิ (ไซตามะ และบางส่วนของโตเกียวกับคานางาวะ) และอุเอโนะ (จังหวัดกุมมะ) นอกจากนี้ ยังเป็นที่รู้จักกันในนาม "การต่อสู้ของคานาคุโบะฮะระ" การสู้รบที่ดุเดือดได้เกิดขึ้นรอบๆ เมืองคามิซาโตะ โออาซะ คานาคุโบะ, บิซะโดะ และบริเวณโดยรอบ

ไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้ของคุณ หากคุณยังคงเรียกดู แสดงว่าคุณยอมรับการใช้คุกกี้บนเว็บไซต์นี้ ยอมรับ

CONTACT